Subhapruek Golf Club เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการออกแบบสนามกอล์ฟที่สามารถมอบประสบการณ์ที่สมดุลระหว่าง ความงดงามของธรรมชาติและความท้าทายทางเทคนิค ด้วยดีไซน์เฉพาะตัวสไตล์ Pete Dye สนามแห่งนี้ต้องการทั้งความแม่นยำ กลยุทธ์ และสมาธิสูงจากผู้เล่น ความสวยงามของสิ่งกีดขวางน้ำ บังเกอร์ที่ออกแบบอย่างมีศิลป์ และหลุมไอคอนิกอย่างหลุม 8, 9 และ 18 ทำให้ Subhapruek กลายเป็นหนึ่งในสนามที่น่าประทับใจที่สุดของประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังมี สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นคลับเฮาส์ขนาดใหญ่ ร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูคุณภาพ ไดร์ฟวิ่งเรนจ์ที่โดดเด่นด้วยเป้าหมายเกาะลอยน้ำ และบริการแคดดี้มืออาชีพ ซึ่งช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเล่น แม้จะมีข้อสังเกตเล็กน้อยเกี่ยวกับบางสิ่งอำนวยความสะดวกที่ควรปรับปรุงใหม่ รวมถึงการจัดการในช่วงที่สนามค่อนข้างหนาแน่น แต่ก็ไม่ได้ลดทอนเสน่ห์หลักของสนามนี้ลงไป
สำหรับนักกอล์ฟที่กำลังมองหา สนามที่ท้าทายพร้อมบรรยากาศสวยงามใกล้กรุงเทพฯ Subhapruek Golf Club ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม อัตราค่ากรีนฟีที่ค่อนข้างสมเหตุสมผลยิ่งเพิ่มความน่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสผลงานการออกแบบของ Pete Dye โดยไม่ต้องจ่ายในราคาพรีเมียม
ด้วยจุดแข็งทั้งหมดนี้ Subhapruek Golf Club สมควรได้รับการยกให้เป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดในย่านกรุงเทพฯ และเป็น จุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักกอล์ฟ ที่มาเยือนประเทศไทย
ทำเลที่ตั้งเชิงกลยุทธ์และภาพรวมของสนาม Subhapruek Golf Club
ซับบุรีกอล์ฟคลับ (Subhapruek Golf Club) เป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟชื่อดังย่านกรุงเทพฯ ประเทศไทย ที่ผสานการออกแบบเชิงเทคนิคที่ท้าทายเข้ากับบรรยากาศธรรมชาติอันงดงาม ตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ ห่างจากใจกลางกรุงเทพฯ ราว 55 กิโลเมตร สนามแห่งนี้อยู่ในทำเลที่สะดวกสบายระหว่างเมืองหลวงและสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ จึงเหมาะทั้งสำหรับนักกอล์ฟท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่ต้องการออกรอบก่อนเดินทางหรือทันทีหลังจากมาถึงกรุงเทพฯ
สนามแห่งนี้เปิดให้บริการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1993 ภายใต้ชื่อ Bangna Country Club ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Subhapruek Golf Club ในเวลาต่อมา ผู้ออกแบบคือ Pete Dye สถาปนิกสนามกอล์ฟระดับตำนานชาวอเมริกัน ผู้มีชื่อเสียงด้านการสร้างสรรค์สนามที่ท้าทายและแฝงไว้ด้วยความสวยงามตามธรรมชาติ ผลงานของเขามักใช้พื้นที่ราบเรียบมาเนรมิตเป็นสนามกอล์ฟที่มีลักษณะลูกคลื่น พร้อมกับอุปสรรคน้ำ บังเกอร์ที่ออกแบบอย่างมีศิลป์ และพืชพรรณเขตร้อนอันโดดเด่น
สนามแห่งนี้มีความยาวรวม 6,837 หลา จากแบ็คที มาตรฐานพาร์ 72 โดดเด่นด้วยการบังคับให้ผู้เล่นต้องใช้กลยุทธ์ ความแม่นยำ และความคิดสร้างสรรค์ในการรับมือกับแต่ละหลุม แตกต่างจากหลายสนามในไทยที่ออกแบบเปิดโล่งและคงความเป็นธรรมชาติ ซับบุรีกอล์ฟคลับถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่นาข้าวเดิมที่ถูกปรับให้เป็นสนามกอล์ฟสไตล์ Parkland ผลลัพธ์คือสนามที่เงียบสงบ เขียวขจี และเต็มไปด้วยคอนทัวร์ที่ท้าทาย ทั้งสวยงามตาและท้าทายฝีมือ
หนึ่งในเอกลักษณ์สำคัญคือการออกแบบโดยใช้ องค์ประกอบน้ำอย่างกว้างขวาง เกือบทุกหลุมมีบ่อน้ำ หนอง หรือคลองเล็ก ๆ ที่ทำหน้าที่เป็นอุปสรรคตามธรรมชาติ บังคับให้ผู้เล่นต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนก่อนตัดสินใจตีลูก ร่วมกับบังเกอร์รูปทรงแปลกตา แฟร์เวย์แคบ และแนวต้นปาล์มที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ทำให้การเล่นที่นี่ไม่ใช่แค่การวัดพลังสวิง แต่เป็นการวางแผนเชิงกลยุทธ์อย่างแท้จริง
นอกจากการเล่นกอล์ฟแล้ว ที่นี่ยังมอบบรรยากาศร่มรื่นผ่อนคลาย ด้วยต้นไม้ใหญ่ อากาศบริสุทธิ์ และภูมิทัศน์ที่ออกแบบไว้อย่างลงตัว ทำให้ Subhapruek Golf Club ไม่ได้เป็นเพียงสนามกีฬา แต่ยังเป็นสถานที่พักผ่อนที่ผู้มาเยือนจากทุกกลุ่มสามารถเพลิดเพลินได้
โดยสรุป การที่สนามตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ถือเป็นจุดแข็งสำคัญ เมื่อผสานกับการออกแบบมาตรฐานสากลและบรรยากาศธรรมชาติอันร่มรื่น Subhapruek Golf Club จึงมักถูกแนะนำให้เป็นหนึ่งในสนามตัวเลือกหลักสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการสัมผัสทั้งความท้าทายเชิงเทคนิคและความงามตามแบบฉบับของ Pete Dye
ค้นหาสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดใกล้คุณ – ดาวน์โหลด GoGolf ได้เลย!
การออกแบบสนามกอล์ฟ Subhapruek Golf Club: เอกลักษณ์อันท้าทายตามสไตล์ Pete Dye
ในฐานะหนึ่งในผลงานของ Pete Dye, สนามกอล์ฟ Subhapruek Golf Club มีเอกลักษณ์ด้านการออกแบบที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร และเต็มไปด้วยความท้าทาย Dye มีชื่อเสียงในด้านความสามารถในการออกแบบสนามที่บังคับให้นักกอล์ฟต้องใช้ทั้ง ความคิดสร้างสรรค์ ความแม่นยำ และกลยุทธ์ อย่างรอบด้าน ที่ Subhapruek เขาสามารถเปลี่ยนพื้นที่นาข้าวราบเรียบให้กลายเป็นสนามกอล์ฟสไตล์ Parkland ที่มีแฟร์เวย์ลูกคลื่น บังเกอร์ที่สวยงาม และอุปสรรคน้ำที่ปรากฏแทบทุกหลุม
หนึ่งในเอกลักษณ์หลักคือ แฟร์เวย์ที่แคบแต่เปิดกว้างในจุดแลนดิ้งโซน ทำให้นักกอล์ฟต้องตีอย่างแม่นยำเพื่อให้ลูกอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในระยะหรือทิศทางอาจทำให้ลูกตกบังเกอร์หรือแม้แต่น้ำได้ ดังนั้น Subhapruek ไม่ได้เป็นเพียงสนามที่วัดพลังไดรเวอร์ แต่ยังทดสอบทักษะการเล่นช็อตสั้นและช็อตกลางด้วย
อีกหนึ่งองค์ประกอบคือ บังเกอร์รูปทรงศิลป์ ที่กระจายอยู่ตามตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ บังเกอร์เหล่านี้ไม่ได้มีเพียงหน้าที่เป็นอุปสรรค แต่ยังช่วยเสริมความงดงามของทิวทัศน์สนาม รูปทรงที่ไม่สมมาตรและการวางตำแหน่งอย่างชาญฉลาด ทำให้นักกอล์ฟต้องพิจารณาเส้นทางตีอย่างรอบคอบ
อุปสรรคน้ำ ก็เป็นจุดเด่นที่พบเกือบทุกหลุม ทั้งบึง สระ และลำคลอง ตัวอย่างเช่น หลุม 8 เป็นด็อกเลกยาวที่โค้งรอบทะเลสาบ ผู้เล่นต้องตัดสินใจเลือกระหว่างการเสี่ยงตัดน้ำเพื่อทางลัด หรือเล่นปลอดภัยทีละช็อต ส่วน หลุม 9 มีอุปสรรคน้ำตลอดแนวขวาของแฟร์เวย์ ทำให้ผู้เล่นต้องรักษาความแม่นยำตั้งแต่ช็อตแรก
หลุม 18 ถือเป็นหลุมไอคอนิก มักถูกเปรียบเทียบกับหลุม 18 ที่ TPC Sawgrass ผลงานระดับโลกของ Pete Dye กรีนของหลุมนี้ตั้งอยู่หน้าฉากหลังน้ำตกสุดงดงาม สร้างทั้งความดราม่าและความท้าทายในการปิดรอบการแข่งขัน น้ำตกนี้ไม่เพียงเสริมทัศนียภาพ แต่ยังมอบประสบการณ์ที่หาได้ยากจากสนามกอล์ฟอื่นในประเทศไทย
แม้แต่ หลุมพาร์ 3 ที่นี่ก็ไม่ธรรมดา ส่วนใหญ่มีอุปสรรคน้ำสำคัญที่บังคับให้ผู้เล่นต้องตีช็อตแรกอย่างแม่นยำเพื่อให้ลูกขึ้นกรีนได้สำเร็จ ทำให้พาร์ 3 ที่ Subhapruek เป็นบททดสอบที่หนักสำหรับผู้เล่น โดยเฉพาะผู้ที่มีแฮนดิแคปสูง
ด้วยการผสมผสานระหว่าง แฟร์เวย์แคบ บังเกอร์ศิลป์ อุปสรรคน้ำซับซ้อน และกรีนที่จัดวางอย่างมีกลยุทธ์ Subhapruek Golf Club มอบประสบการณ์ออกรอบที่ทั้งท้าทายและน่าพึงพอใจ สไตล์เฉพาะของ Pete Dye ที่เน้น ความเสี่ยงและผลตอบแทน (Risk & Reward) ทำให้แต่ละหลุมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และบังคับให้ผู้เล่นต้องคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจตีทุกครั้ง
สิ่งอำนวยความสะดวกคลับเฮาส์และส่วนเสริม
นอกจากคุณภาพสนามที่ท้าทายแล้ว Subhapruek Golf Club ยังมีชื่อเสียงในด้านคลับเฮาส์ที่ครบครันและสะดวกสบาย คลับเฮาส์ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมทางสังคม การรับประทานอาหาร และการพักผ่อนหลังการเล่นกอล์ฟ สิ่งอำนวยความสะดวกที่จัดเตรียมไว้อย่างดีช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มองหาความสะดวกสบายครบวงจรระหว่างการพักผ่อน
หนึ่งในไฮไลต์ของคลับเฮาส์คือ ห้องอาหาร ที่เสิร์ฟทั้งเมนูเอเชียและตะวันตก เมนูยอดนิยมอย่าง ติ่มซำสไตล์จีน และ ก๋วยเตี๋ยวสูตรไทย ได้รับความนิยมจากทั้งนักกอล์ฟและผู้มาเยือนทั่วไป ห้องอาหารบรรยากาศกว้างขวางและสะดวกสบาย เหมาะทั้งสำหรับการรับประทานอาหารแบบสบาย ๆ หลังออกรอบ หรือใช้เป็นสถานที่นัดพบเพื่อธุรกิจ
นอกจากนี้ยังมี ห้องล็อกเกอร์ (Locker Rooms) ที่ออกแบบมาอย่างครบครัน ทั้งล็อกเกอร์ขนาดใหญ่ ห้องน้ำสะอาด และซาวน่าเล็ก ๆ เพื่อให้ผู้เล่นผ่อนคลายและสดชื่นหลังจบเกม
สำหรับการใช้งานด้านธุรกิจหรือกิจกรรมพิเศษ สนามแห่งนี้ยังมี ห้องจัดเลี้ยง (Function Room) ที่สามารถใช้จัดสัมมนา การประชุม หรือกิจกรรมครอบครัวได้ ทำให้ Subhapruek ไม่ใช่แค่สนามกีฬา แต่ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับงานสังคมและงานองค์กร
Pro Shop ภายในคลับเฮาส์ก็พร้อมให้บริการ มีทั้งอุปกรณ์กอล์ฟ เสื้อผ้า และของที่ระลึก ช่วยให้นักกอล์ฟสะดวกสบายหากต้องการอุปกรณ์เพิ่มเติมหรือหาของฝาก
อีกหนึ่งจุดเด่นคือ Driving Range พร้อมเกาะเป้าลอยน้ำ อันเป็นเอกลักษณ์ นักกอล์ฟสามารถฝึกตีไดรฟ์โดยเล็งไปที่เกาะเล็ก ๆ กลางบ่อน้ำ สร้างทั้งความสนุกและความท้าทายในการซ้อม
สุดท้ายยังมี เลานจ์ (Lounge) สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศสบาย ๆ พร้อมวิวสนามกอล์ฟสีเขียวขจีรอบด้าน
โดยรวมแล้ว คลับเฮาส์ของ Subhapruek Golf Club สะท้อนคุณภาพระดับพรีเมียม ด้วยการผสมผสานสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร ตั้งแต่ห้องอาหาร ห้องล็อกเกอร์ ฟังก์ชันรูม โปรช็อป ดรายฟ์เรนจ์แบบพิเศษ ไปจนถึงเลานจ์ ทำให้ที่นี่มอบประสบการณ์ที่ครบถ้วนทั้งในด้านกีฬา การพักผ่อน และการสังสรรค์
รีวิวจากผู้มาเยือน: ประสบการณ์จริงที่ Subhapruek Golf Club
รีวิวจากผู้มาเยือน: ประสบการณ์จริงที่ Subhapruek Golf Club
Subhapruek Golf Club ได้รับคำชื่นชมจากนักกอล์ฟทั้งชาวไทยและต่างชาติอยู่เสมอ โดยจุดเด่นที่มักถูกกล่าวถึงคือ สภาพสนามที่ดูแลอย่างดี, การออกแบบที่ท้าทาย, และ การบริการอย่างมืออาชีพจากแคดดี้
สภาพสนาม: สนามแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านการดูแลแฟร์เวย์และกรีนที่คงคุณภาพได้อย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี พื้นผิวสนามเรียบเนียน ทำให้ผู้เล่นได้ประสบการณ์ที่ยุติธรรมและสนุกสนาน กรีนมีความเร็วระดับกลางถึงเร็ว พร้อมด้วยคอนทัวร์หลากหลายที่ท้าทายทักษะการพัตต์
การออกแบบโดย Pete Dye: นักกอล์ฟต่างชื่นชมกับความท้าทายของอุปสรรคน้ำที่ปรากฏเกือบทุกหลุม ช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ ขณะเดียวกันยังเป็นสนามที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นในการเรียนรู้กลยุทธ์การเล่น หลุม 18 พร้อมฉากหลังเป็นน้ำตกได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหลุมที่สวยและดราม่าที่สุดในประเทศไทย
การบริการจากแคดดี้: ผู้เล่นส่วนใหญ่ประทับใจกับความเป็นมิตร ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับสนาม และคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ของแคดดี้ ทั้งเรื่องระยะและทิศทางการตี
ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุง: ผู้เล่นบางส่วนกล่าวถึง ข้อจำกัดของรถกอล์ฟ (Buggy) ในช่วงเวลาที่คนเยอะ ทำให้ต้องรอนาน อีกทั้งมีความเห็นเล็กน้อยเกี่ยวกับการต้อนรับของพนักงานรีเซปชัน รวมถึงตารางทีไทม์ที่หนาแน่นจนทำให้เกมดำเนินไปช้าลง
สิ่งอำนวยความสะดวก: มีบางรีวิวระบุว่า คลับเฮาส์ค่อนข้างเก่า แม้จะยังใช้งานได้ดีและสะดวกสบาย แต่การปรับปรุงเล็กน้อย โดยเฉพาะห้องล็อกเกอร์ จะช่วยยกระดับภาพลักษณ์พรีเมียมของสนามได้มากขึ้น
โดยรวมแล้ว Subhapruek Golf Club ได้รับคะแนนรีวิวค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่ให้คะแนนเฉลี่ย 4.0 – 4.3 จาก 5 บนหลายแพลตฟอร์ม นักกอล์ฟจำนวนมากแนะนำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสนามที่ควรมาเล่น หากต้องการสัมผัสทั้ง ความสวยงามของธรรมชาติ, การออกแบบอันท้าทาย, และ บริการมืออาชีพ ใกล้กรุงเทพฯ
ค่า Green Fee Subhapruek Golf Club 2025
ในด้านราคา Subhapruek Golf Club จัดอยู่ในกลุ่ม ระดับกลาง เมื่อเทียบกับสนามกอล์ฟอื่น ๆ ในเขตกรุงเทพฯ สำหรับปี 2025 อัตราค่าบริการโดยประมาณคือ:
- วันธรรมดา (จันทร์ – ศุกร์): ประมาณ 1,500 บาท สำหรับ 18 หลุม
- วันหยุดสุดสัปดาห์และวันนักขัตฤกษ์: ประมาณ 2,250 บาท สำหรับ 18 หลุม
นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เรียกเก็บแยกต่างหาก ได้แก่:
- ค่าแคดดี้ ประมาณ 400 บาท (ยังไม่รวมทิป)
- รถกอล์ฟ ประมาณ 700 บาท ต่อรอบ
- หมายเหตุ: ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ บังคับใช้รถกอล์ฟ เพื่อความสะดวกและความรวดเร็วของการเล่น
ฉันอยากจองสนาม Subhapruek Golf Club ผ่าน GoGolf ตอนนี้เลย!
เมื่อเทียบกับสนามอื่นในย่านกรุงเทพฯ ราคาของ Subhapruek ถือว่าค่อนข้างแข่งขันได้ และเมื่อพิจารณาร่วมกับการออกแบบสุดท้าทายของ Pete Dye สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน และบรรยากาศอันงดงาม หลายคนเห็นว่าราคานี้ คุ้มค่ากับประสบการณ์ที่ได้รับ
นอกจากนี้ ตัวแทนท่องเที่ยวกอล์ฟและแพลตฟอร์มจองออนไลน์ รวมถึงแอป GoGolf ก็มักมี แพ็กเกจโปรโมชั่น ที่รวม Green Fee + แคดดี้ + รถกอล์ฟ ในราคาที่คุ้มยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงแนะนำให้ทำการจองล่วงหน้าผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการเพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด
โดยสรุป ค่า Green Fee ของ Subhapruek Golf Club มอบความคุ้มค่าอย่างแท้จริง เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการสัมผัส ความท้าทายเชิงเทคนิค, การบริการอย่างมืออาชีพ, และ ความงดงามของธรรมชาติ โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายราคาสูงเหมือนสนามกอล์ฟพรีเมียมระดับท็อปในกรุงเทพฯ
[ Follow our social media Account: GoGolf Instagram | GoGolf Facebook | GoGolf X ]