ประสิทธิภาพของกอล์ฟในการช่วยลดน้ำหนัก และประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวม

กอล์ฟช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่? สำรวจประสิทธิภาพของกอล์ฟต่อสุขภาพและการเผาผลาญพลังงาน

กีฬากอล์ฟมักถูกมองอย่างจำกัดว่าเป็นเพียงกิจกรรมเพื่อความบันเทิงหรือการ社交ที่นิยมในกลุ่มคนบางประเภท หลายคนมีความเชื่อว่ากอล์ฟไม่ใช่กีฬาเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย และยิ่งไม่เกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนัก ความเข้าใจนี้แตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับกีฬาแบบคาร์ดิโอ เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเผาผลาญแคลอรีได้จำนวนมาก

แต่…ความเชื่อนี้จริงหรือไม่? GoGolf ขอนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟ พร้อมตอบคำถามว่า “กอล์ฟไม่มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักเลยจริงหรือ?” หรืออย่างน้อย ช่วยรักษาความฟิตของร่างกายได้หรือไม่? เพื่อตอบคำถามนี้ เราจำเป็นต้องมองกอล์ฟในมุมที่ลึกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านความเข้มข้นของการเล่น กลไกการเผาผลาญแคลอรี ไปจนถึงผลกระทบต่อสุขภาพในเชิงตรงและเชิงอ้อม

ทบทวนมุมมองทั่วไปเกี่ยวกับกอล์ฟในฐานะกีฬา

โดยทั่วไปแล้ว กอล์ฟมักถูกจัดเป็นกีฬา “เบา” ที่ไม่เน้นความเข้มข้นของร่างกาย กิจกรรมหลักของกอล์ฟคือการตีลูกด้วยไม้กอล์ฟ และเดินไปยังตำแหน่งของลูกถัดไป ซึ่งดูเหมือนเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่ต่อเนื่องและไม่หนักหน่วง เหมือนกับกีฬาอื่น ๆ ที่มีการเคลื่อนไหวเข้มข้นตลอดเวลา เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล หรือเทนนิส

นอกจากนี้ กอล์ฟยังถูกมองว่าเป็นกิจกรรมเพื่อพักผ่อนหรือสังสรรค์ หลายคนใช้ช่วงเวลาตีกอล์ฟเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ พูดคุยกับเพื่อน หรือเพียงแค่เพลิดเพลินกับบรรยากาศธรรมชาติในสนามกอล์ฟที่สวยงาม จึงไม่แปลกที่กอล์ฟจะถูกตีตราเป็นกีฬาของผู้บริหารที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมากกว่าการออกกำลังกาย

อย่างไรก็ตาม มุมมองดังกล่าวอาจไม่ถูกต้องนัก หากพิจารณาให้ลึกซึ้งขึ้น แม้ว่ากอล์ฟจะไม่ใช่กีฬาที่ใช้พลังอย่างเข้มข้น แต่ก็มีองค์ประกอบของการเคลื่อนไหวทางกายภาพที่สัมพันธ์กับกล้ามเนื้อเกือบทุกส่วนของร่างกาย และหากเล่นในรูปแบบที่เหมาะสม กอล์ฟสามารถกลายเป็นเครื่องมือในการเผาผลาญพลังงานที่มีประสิทธิภาพได้เช่นกัน

กอล์ฟในมุมมองของการควบคุมน้ำหนัก: ทฤษฎีและการปฏิบัติในสนามจริง

ตามหลักทฤษฎี: กอล์ฟไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อลดน้ำหนักโดยเฉพาะ

ในเชิงทฤษฎี กอล์ฟไม่ได้ถูกจัดอยู่ในประเภทกีฬาหลักที่แนะนำสำหรับการลดน้ำหนัก ในแนวทางการออกกำลังกายสมัยใหม่ กีฬาที่ได้รับการแนะนำสำหรับการลดน้ำหนักมักเป็นกีฬาประเภทแอโรบิกที่มีความเข้มข้นระดับปานกลางถึงสูง เช่น การวิ่งจ๊อกกิ้ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือเต้นแอโรบิก กีฬาประเภทนี้จะกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้เกิดการเผาผลาญพลังงานอย่างมีนัยสำคัญ

ในทางกลับกัน กอล์ฟถูกจัดอยู่ในกลุ่มกีฬาเบาถึงปานกลาง กิจกรรมทางร่างกายหลักคือการเดินจากหลุมหนึ่งไปยังอีกหลุมหนึ่ง การสวิงไม้ และการยืนรอ ซึ่งแตกต่างจากกีฬาแข่งขันอื่น ๆ ที่ใช้พลังต่อเนื่องและเข้มข้น เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล หรือเทนนิส

ดังนั้นจากมุมมองของการควบคุมน้ำหนัก กอล์ฟจึงมักถูกมองว่าเป็นกิจกรรมเพื่อการพักผ่อนที่ช่วยเผาผลาญพลังงานได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จุดนี้เป็นเรื่อง “สัมพัทธ์” เพราะประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงานจากการเล่นกอล์ฟ ขึ้นอยู่กับวิธีการเล่น ระยะเวลา และความเข้มข้น เช่น ผู้เล่นเดินเท้าเองหรือใช้รถกอล์ฟ หากมีวิธีการเล่นที่เหมาะสม กอล์ฟก็สามารถเป็นเครื่องมือหนึ่งในการช่วยควบคุมน้ำหนักได้เช่นกัน

กลยุทธ์ทำให้กอล์ฟช่วยลดน้ำหนักได้จริง

เพิ่มความเข้มข้นของการเล่นกอล์ฟ

หากต้องการให้กอล์ฟช่วยลดน้ำหนักได้จริง จุดสำคัญคือ “ระดับความเข้มข้น” ของกิจกรรมทางร่างกายขณะเล่น โดยข้อมูลด้านสุขภาพกีฬาแสดงว่า ผู้เล่นสามารถเผาผลาญพลังงานประมาณ 264–450 กิโลแคลอรีต่อชั่วโมง เมื่อเล่นในระดับเบา แต่หากเพิ่มความเข้มข้น เช่น เดินตลอดสนาม แบกถุงกอล์ฟเอง และเล่นในสนามที่มีเนินสูงต่ำ จะสามารถเผาผลาญได้มากถึง 531–2,467 กิโลแคลอรี ต่อรอบ 18 หลุม

เคล็ดลับเพิ่มระดับการเผาผลาญแคลอรีจากกอล์ฟ

  • เดินระหว่างหลุมแทนการใช้รถกอล์ฟ
  • แบกถุงกอล์ฟเอง (ถ้าไหว) แทนการใช้แคดดี้
  • เลือกเล่นในสนามที่กว้างหรือมีเนิน เพื่อเพิ่มจำนวนก้าว
  • เร่งจังหวะการเล่นเล็กน้อย เพื่อให้หัวใจทำงานอย่างต่อเนื่อง

ความถี่ในการเล่นกอล์ฟที่เหมาะสมเพื่อสุขภาพ

American Heart Association แนะนำให้มีกิจกรรมทางกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ในระดับความเข้มข้นปานกลาง ซึ่งเทียบเท่ากับการเล่นกอล์ฟ 2–3 รอบต่อสัปดาห์ (รอบละ 18 หลุม ใช้เวลาเฉลี่ย 4–5 ชั่วโมง)

การเล่นกอล์ฟในความถี่นี้ไม่เพียงช่วยเผาผลาญพลังงาน แต่ยังส่งเสริมสุขภาพหัวใจ เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและสะโพก และช่วยคงความยืดหยุ่นของข้อต่อ

ในความเป็นจริง: ทำไมกอล์ฟจึงไม่ค่อยส่งผลชัดเจนต่อดัชนีมวลกาย (BMI)?

แม้กอล์ฟจะเผาผลาญพลังงานได้มากในบางกรณี แต่ผลการศึกษาจำนวนมากพบว่า ค่าดัชนีมวลกายของนักกอล์ฟมักไม่ต่างจากคนทั่วไปอย่างชัดเจน โดยมีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้:

  • ผู้เล่นจำนวนมาก ใช้รถกอล์ฟ มากกว่าการเดิน
  • การเล่นกอล์ฟมักมีช่วง หยุดพัก พูดคุย หรือทานอาหารว่าง ซึ่งลดระยะเวลาในการเผาผลาญพลังงาน
  • หลังเล่นจบ หลายคนมัก ทานอาหารหรือเครื่องดื่มแคลอรีสูง เช่น เบียร์ เบเกอรี่ หรืออาหารทอด ซึ่งอาจเท่ากับหรือมากกว่าพลังงานที่เพิ่งเผาผลาญไป

ดังนั้น หากต้องการให้กอล์ฟมีบทบาทจริงในการลดน้ำหนัก ควรปรับทั้งรูปแบบการเล่น และพฤติกรรมการกินร่วมด้วย

ประโยชน์ของกอล์ฟที่มากกว่าแค่การลดน้ำหนัก

ลดความเครียดและส่งเสริมสุขภาพจิต

กอล์ฟถือเป็นการ “บำบัดจิตใจ” อย่างหนึ่ง การได้อยู่กลางแจ้ง สูดอากาศบริสุทธิ์ เดินชมธรรมชาติขณะเล่นกอล์ฟ ช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) อีกทั้งการเล่นกอล์ฟยังฝึกให้เรามีสมาธิ วางแผน ควบคุมอารมณ์ และรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น เมื่อลูกตกในบังเกอร์หรือบริเวณ hazard

สร้างและขยายเครือข่ายทางสังคม

กอล์ฟเป็นกีฬาที่เล่นเป็นกลุ่ม จึงเปิดโอกาสให้ผู้คนได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจหรือมิตรภาพใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างดี

ช่วยยืดอายุขัย

งานวิจัยจากสวีเดนพบว่า นักกอล์ฟมีอายุเฉลี่ยยืนยาวกว่าคนทั่วไปถึง 5 ปี
ซึ่งอาจมาจากหลายปัจจัย เช่น การออกกำลังกายเบาเป็นประจำ ความเครียดต่ำจากการเข้าสังคม และแรงจูงใจให้ดูแลสุขภาพเพื่อเล่นกอล์ฟต่อไป

สรุป: กอล์ฟไม่ใช่กีฬาหลักสำหรับลดน้ำหนัก…แต่ก็มีคุณค่ามากกว่าที่คิด

จากทั้งหมดนี้ เราสามารถสรุปได้ว่า กอล์ฟอาจไม่ใช่ตัวเลือกแรกสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน
แต่หากเล่นอย่างเหมาะสม—เดินมากขึ้น แบกถุงเอง และควบคุมการกิน—ก็สามารถช่วย “รักษาสมดุลพลังงานในร่างกาย” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ กอล์ฟยังมีคุณค่าในด้านสุขภาพจิต การเข้าสังคม และสุขภาพองค์รวมในระยะยาว จึงถือเป็นกีฬาที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งการผ่อนคลาย และสร้างไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพ

[ Follow our social media Account: GoGolf Instagram | GoGolf Facebook | GoGolf X ]