ค่า Green Fee และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการเล่นกอล์ฟในประเทศมาเลเซียอยู่ที่เท่าไหร่?

กอล์ฟในประเทศมาเลเซียได้กลายเป็นหนึ่งในกีฬายอดนิยมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่ในหมู่ชาวมาเลเซียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศในเอเชียและทั่วโลกอีกด้วย
ด้วยการผสมผสานระหว่าง สนามกอล์ฟมาตรฐานสากล ทิวทัศน์เขตร้อนอันงดงาม และการบริการระดับโลก ทำให้มาเลเซียกลายเป็นหนึ่งใน จุดหมายปลายทางการเล่นกอล์ฟที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในปี 2025 แนวโน้มของวงการกอล์ฟในมาเลเซียยังคงเป็นบวก โดยมีรีสอร์ตกอล์ฟหลายแห่งขยายสิ่งอำนวยความสะดวกและปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ เพื่อดึงดูดนักกอล์ฟจากทั่วโลกให้มาเยือนมากขึ้น

บทความนี้จาก GoGolf จะพาคุณไปสำรวจเชิงลึกเกี่ยวกับ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการเล่นกอล์ฟในประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ อัตราค่า Green Fee ของสนามแต่ละระดับ ไปจนถึงแพ็กเกจ “Play & Stay” และโปรโมชั่นตามฤดูกาล ที่ช่วยให้การออกรอบในแดนเพื่อนบ้านนี้สนุกและคุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม

ค่า Green Fee และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการเล่นกอล์ฟในประเทศมาเลเซีย ประจำปี 2025

ค่าใช้จ่ายในการเล่นกอล์ฟในมาเลเซียแตกต่างกันไปตาม ทำเล ระดับของสนาม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้บริการ ในปี 2025 มาเลเซียมีสนามกอล์ฟหลายประเภท ตั้งแต่สนามระดับพรีเมียมมาตรฐานสากล ไปจนถึงสนามระดับกลางที่ราคาย่อมเยาแต่ยังคงให้ความสะดวกสบายและได้รับการดูแลเป็นอย่างดี

สนามกอล์ฟระดับพรีเมียม เช่น Glenmarie Golf and Country Club ในเขต Klang Valley เป็นหนึ่งในสนามที่มีชื่อเสียงที่สุดในมาเลเซีย สนามนี้มีสองสนามระดับแชมเปียนชิพที่มักใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกอล์ฟระดับมืออาชีพ ค่ากรีนฟีในวันธรรมดาอยู่ที่ประมาณ RM190 ถึง RM275 (หรือประมาณ Rp650.000 – Rp930.000) ขณะที่ในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ราคาสามารถสูงถึง RM490 (ประมาณ Rp1.650.000) ค่าดังกล่าวรวมถึง Green Fee, รถกอล์ฟแบบแชร์ (buggy twin-sharing), ประกันภัย และภาษี โดยมีค่า Caddie เพิ่มเติมที่อาจจำเป็นต้องชำระ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของบริการ

ต่อมา The ELS Club Desaru Coast ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักกอล์ฟระดับนานาชาติที่มองหาประสบการณ์ระดับพรีเมียม สนามนี้ออกแบบโดยตำนานกอล์ฟชื่อดัง Ernie Els สำหรับการเล่นที่นี่ ผู้เล่นจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายประมาณ RM415 (ประมาณ Rp1.400.000) ในวันธรรมดา และ RM465 (ประมาณ Rp1.570.000) ในวันหยุดสุดสัปดาห์ สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้ ได้แก่ รถกอล์ฟแบบแชร์ ล็อกเกอร์ส่วนตัว และประกันภัยสำหรับผู้เล่นกอล์ฟ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความหรูหราในระหว่างการเล่น

ในส่วนของสนามระดับกลาง (Mid-tier) มาเลเซียก็มีหลายตัวเลือกที่ราคาไม่สูงเกินไป เช่น Tasik Puteri Golf & Country Club ซึ่งมีค่ากรีนฟีประมาณ RM170 ถึง RM270 (หรือประมาณ Rp580.000 – Rp930.000) ต่อรอบ 18 หลุม รวมรถกอล์ฟและคัดดี้ สนามนี้ได้รับความนิยมจากนักกอล์ฟท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศสนามกอล์ฟระดับมืออาชีพโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง

สนามอื่นอย่าง Seri Selangor Golf Club ก็เป็นอีกตัวอย่างของสนามคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม โดยในวันธรรมดาค่ากรีนฟีจะอยู่ที่ประมาณ RM178 (ประมาณ Rp610.000) และสามารถสูงถึง RM490 (ประมาณ Rp1.650.000) ในวันหยุด ขึ้นอยู่กับเวลาเล่นและแพ็กเกจที่เลือก สนามนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งรถกอล์ฟ คัดดี้ และประกันภัยพื้นฐาน

โดยรวมแล้ว ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการเล่นกอล์ฟในมาเลเซียสำหรับการเล่น 18 หลุม อยู่ในช่วงประมาณ Rp600.000 – Rp1.700.000 ขึ้นอยู่กับทำเลและระดับของสนาม สนามระดับพรีเมียมหรือรีสอร์ตกอล์ฟนานาชาติจะมีราคาสูงกว่าเนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่หรูหรา อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สิงคโปร์หรือประเทศไทย ราคากอล์ฟในมาเลเซียถือว่าค่อนข้างแข่งขันได้ และมอบความคุ้มค่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์คุณภาพในราคาสมเหตุสมผล

ค้นหาสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดใกล้คุณ – ดาวน์โหลด GoGolf ได้เลย!

ตารางสรุปค่า Green Fee ในสนามกอล์ฟบางแห่งของประเทศมาเลเซีย

สถานที่ / สนามกอล์ฟ ค่า Green Fee (18 หลุม) (RM) ช่วงราคา (Rp) สิ่งอำนวยความสะดวกที่รวมอยู่แล้ว
Glenmarie Golf & Country Club RM190 – RM490 Rp650.000 – Rp1.650.000 Green Fee, รถกอล์ฟ (Buggy), ประกันภัย, ภาษี
The ELS Club Desaru Coast RM415 – RM465 Rp1.400.000 – Rp1.570.000 Green Fee, รถกอล์ฟ, ล็อกเกอร์, ประกันภัย
Tasik Puteri Golf & Country Club RM170 – RM270 Rp580.000 – Rp930.000 Green Fee, รถกอล์ฟ, คัดดี้
Seri Selangor Golf Club RM178 – RM490 Rp610.000 – Rp1.650.000 Green Fee, รถกอล์ฟ, คัดดี้

ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า มาเลเซียมีช่วงราคาที่หลากหลายและยืดหยุ่น รองรับนักกอล์ฟทุกกลุ่ม ทั้งนักกอล์ฟเพื่อการพักผ่อน (Recreational Golfer) และนักกอล์ฟมืออาชีพ (Professional Golfer)

การเปรียบเทียบค่า Green Fee ระหว่างวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์ในประเทศมาเลเซีย

ความแตกต่างของราคา ระหว่างวันธรรมดา (Weekday) และ วันหยุดสุดสัปดาห์ (Weekend) ในสนามกอล์ฟมาเลเซีย ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่นักกอล์ฟควรคำนึงถึง โดยในปี 2025 พบว่ามีความแตกต่างของราคาค่อนข้างมาก โดยค่ากรีนฟีในช่วงสุดสัปดาห์อาจสูงกว่าวันธรรมดาเกือบสองเท่า

โดยเฉลี่ยแล้ว ค่ากรีนฟีในวันธรรมดาสำหรับการเล่น 18 หลุม จะอยู่ในช่วงประมาณ RM120 – RM280 (หรือประมาณ Rp420.000 – Rp980.000)
ขณะที่ในช่วง สุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น RM270 – RM600 (หรือประมาณ Rp940.000 – Rp2.100.000) การปรับราคานี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากมีความต้องการเล่นสูงขึ้นในวันหยุด ซึ่งนักกอล์ฟทั้งในประเทศและนักท่องเที่ยวมักเลือกช่วงเวลานี้เพื่อออกรอบ

ตัวอย่างเช่น ในหนึ่งในสนามกอล์ฟของมาเลเซีย ค่ากรีนฟีสำหรับผู้มาเยือนในวันธรรมดาอยู่ที่เพียง RM121 (ประมาณ Rp425.000) แต่จะเพิ่มขึ้นเป็น RM161 (ประมาณ Rp565.000) ในวันหยุดสุดสัปดาห์ อีกตัวอย่างหนึ่ง เช่น สนามกอล์ฟรีสอร์ตในรัฐ ยะโฮร์ (Johor) มีค่ากรีนฟีวันธรรมดา ประมาณ RM275 (ประมาณ Rp965.000) แต่จะเพิ่มขึ้นถึง RM480 (ประมาณ Rp1.680.000) ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งแสดงให้เห็นความแตกต่างของราคาเกือบเท่าตัว

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าคัดดี้ (Caddie) และ รถกอล์ฟ (Buggy) มักรวมอยู่ในแพ็กเกจของสนามระดับพรีเมียมแล้ว แต่ในบางสนามอาจยังมีการเรียกเก็บแยกต่างหาก ประมาณ RM90 – RM120 ต่อรอบ (18 หลุม) โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด

สิ่งที่น่าสนใจคือ ปัจจุบันมีสนามกอล์ฟหลายแห่งในมาเลเซียที่จัด โปรโมชั่นพิเศษสำหรับวันธรรมดา (Weekday Promotions) เช่น ส่วนลด 10–30% หรือสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เช่น คูปองอาหาร หรือสิทธิใช้สนามซ้อม (Driving Range) ฟรี โปรโมชั่นเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อดึงดูดผู้เล่นให้มาใช้บริการในช่วงวันที่มีการใช้งานสนามน้อย

ดังนั้น สำหรับนักกอล์ฟที่สามารถเลือกเวลาเล่นได้อย่างยืดหยุ่น การออกรอบในวันธรรมดา ถือเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดกว่า เพราะนอกจากจะช่วย ประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว บรรยากาศในสนามยัง สงบและไม่แออัด เหมาะกับการเล่นที่ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

ตารางเปรียบเทียบอัตราค่า Green Fee ระหว่างวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์

วัน ค่า Green Fee เฉลี่ย (18 หลุม) (RM) ช่วงราคา (Rp)
วันธรรมดา (Weekday) RM120 – RM280 Rp420.000 – Rp980.000
วันหยุดสุดสัปดาห์ (Weekend) RM270 – RM600 Rp940.000 – Rp2.100.000

การเปรียบเทียบนี้แสดงให้เห็นว่า ราคาค่ากรีนฟีในวันธรรมดาอาจประหยัดได้มากถึง 50% เมื่อเทียบกับวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้วันธรรมดาเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการเพลิดเพลินกับสนามในบรรยากาศที่สงบ ไม่แออัด และมีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่ากว่า

แพ็กเกจ “Play & Stay” และส่วนลดตามฤดูกาลของกอล์ฟในประเทศมาเลเซีย

นอกเหนือจากค่ากรีนฟีแล้ว รีสอร์ตกอล์ฟหลายแห่งในประเทศมาเลเซียยังมีการนำเสนอ แพ็กเกจ “Play & Stay” — ซึ่งเป็นการรวมระหว่าง ที่พักและการเล่นกอล์ฟ ที่ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้เข้าพัก แพ็กเกจนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวกอล์ฟ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังมอบประสบการณ์การเล่นและการพักผ่อนในสถานที่เดียวกันอย่างหรูหราและพิเศษ

หนึ่งในรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงคือ Tanjong Puteri Golf Resort ที่ตั้งอยู่ใน ยะโฮร์บารู (Johor Bahru) ในปี 2025 รีสอร์ทแห่งนี้มีข้อเสนอแพ็กเกจ Stay & Play ที่ใช้ได้ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน แพ็กเกจนี้รวมการเข้าพัก 1 คืนในคลับเฮาส์ อาหารเช้า อาหารกลางวันหรืออาหารเย็น และสิทธิ์ในการเล่นกอล์ฟได้ไม่จำกัดในสองสนามหลักของรีสอร์ท ได้แก่ Plantation และ Straits
ราคาของแพ็กเกจเริ่มต้นที่ RM440++ (ประมาณ Rp1.545.000) สำหรับผู้เข้าพักคู่ (twin) ในวันธรรมดา และ RM540++ (ประมาณ Rp1.897.000) สำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ ถือเป็นหนึ่งในแพ็กเกจที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์กอล์ฟครบวงจรพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในรีสอร์ท

ที่ Glenmarie Golf & Country Club ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ก็มีแพ็กเกจลักษณะเดียวกันแต่หรูหรากว่า โดยแพ็กเกจนี้รวมการเข้าพัก 1 คืนในห้องพักระดับ Deluxe Room การเล่นกอล์ฟ 1 รอบ (18 หลุม) สิทธิ์เข้าใช้ Driving Range และอาหารบุฟเฟต์ประจำวัน

อัตราค่าใช้จ่ายในวันธรรมดาสำหรับผู้เข้าพักเดี่ยวเริ่มต้นที่ RM900++ (ประมาณ Rp3.160.000) และสำหรับผู้เข้าพักคู่ในวันธรรมดาอยู่ที่ RM1.173++ (ประมาณ Rp4.120.000) แม้ราคาจะสูง แต่ด้วยบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยอดเยี่ยม Glenmarie ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้บริหารและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการความสะดวกสบายระดับพรีเมียม

ในขณะเดียวกัน Meru Valley Golf & Country Club ที่ตั้งอยู่ในรัฐเปรัก (Perak) ก็มีการมอบ ส่วนลดพิเศษในวัน Malaysia Day ทุกเดือนกันยายน ในปี 2025 สนามแห่งนี้เสนอโปรโมชั่นราคา RM800 (ประมาณ Rp2.812.000) ต่อหนึ่งไฟลต์ สำหรับการเล่นกอล์ฟ 18 หลุมในวันธรรมดา รวม รถกอล์ฟแบบแชร์ (buggy twin-sharing), ประกันภัย, และ คัดดี้บังคับ

นอกจากนี้ สนามกอล์ฟหลายแห่งในมาเลเซียยังมี โปรโมชั่นตามฤดูกาล (Seasonal Promotions) ในช่วง วันหยุดโรงเรียน, วันสำคัญทางศาสนา, และ กิจกรรมประจำปี โดยมักให้ส่วนลดระหว่าง 10–30% จากราคาปกติ บางแห่งยังมี Midweek Special หรือ Low Season Promo เพื่อรักษาจำนวนผู้เล่นให้คงที่ในช่วงที่สนามไม่ค่อยมีคน

ด้วยข้อเสนอที่หลากหลายเหล่านี้ ทำให้ มาเลเซียกลายเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักกอล์ฟ ไม่ว่าจะเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพหรือผู้เล่นเพื่อการพักผ่อน แพ็กเกจเหล่านี้มอบประสบการณ์ครบวงจรที่ผสมผสานระหว่าง กีฬา การพักผ่อน และความหรูหราในรีสอร์ท ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ตารางสรุปแพ็กเกจ Play & Stay ในประเทศมาเลเซีย ปี 2025

รีสอร์ต / คลับกอล์ฟ ประเภทแพ็กเกจ ราคา (RM) ช่วงราคา (Rp) สิ่งที่รวมอยู่ในแพ็กเกจ
Tanjong Puteri Golf Resort Stay & Play Twin RM440 – RM540 Rp1.545.000 – Rp1.897.000 ที่พัก 1 คืน, อาหารเช้า, อาหารกลางวัน/เย็น, เล่นกอล์ฟไม่จำกัด
Glenmarie Golf & Country Club Stay & Play Deluxe RM900 – RM1.173 Rp3.160.000 – Rp4.120.000 ห้อง Deluxe, เล่นกอล์ฟ 18 หลุม, สนามซ้อม, บุฟเฟต์อาหาร
Meru Valley Golf & Country Club Malaysia Day Promo RM800 Rp2.812.000 เล่นกอล์ฟ 18 หลุม, รถกอล์ฟ (Buggy), คัดดี้, ประกันภัย

แพ็กเกจ “Play & Stay” เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า การเล่นกอล์ฟในประเทศ มาเลเซีย ไม่ได้เป็นเพียงแค่กีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของ ประสบการณ์การท่องเที่ยวครบวงจร ที่ผสมผสานทั้งการพักผ่อน ความสะดวกสบาย และความหรูหราไว้ในที่เดียว

สรุป

จากข้อมูลทั้งหมดข้างต้น สามารถสรุปได้ว่า ค่าใช้จ่ายในการเล่นกอล์ฟในประเทศมาเลเซีย ปี 2025 ถือว่ามีความ ยืดหยุ่นและแข่งขันได้สูง โดยปรับให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของนักกอล์ฟแต่ละคน สำหรับสนามระดับกลาง ราคาจะอยู่ที่ประมาณ Rp600.000 – Rp1.000.000 ต่อรอบ ส่วนสนามระดับพรีเมียมหรือรีสอร์ตสุดหรู ราคาสามารถสูงถึง Rp2.000.000 หรือมากกว่า ต่อรอบ

ความแตกต่างของราคา ระหว่างวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์ ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถ ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากถึงเกือบสองเท่า หากเลือกเล่นในวันธรรมดา

นอกจากนี้ การมีอยู่ของ แพ็กเกจ “Play & Stay” และ โปรโมชั่นตามฤดูกาล ทำให้ประเทศ มาเลเซีย กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มี ข้อเสนอการเล่นกอล์ฟที่น่าสนใจที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้วยการผสมผสานระหว่าง ราคาที่สมเหตุสมผล สิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย และบรรยากาศเขตร้อนอันสวยงาม ประเทศมาเลเซียยังคงเสริมความแข็งแกร่งในฐานะ จุดหมายปลายทางระดับนานาชาติสำหรับนักกอล์ฟ ที่ไม่เพียงตอบโจทย์การเล่นกีฬาเท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าประทับใจครบทุกมิติอีกด้วย

[ Follow our social media Account: GoGolf Instagram | GoGolf Facebook | GoGolf X ]