The Royal Golf & Country Club คือตัวแทนแห่งความเป็นเลิศของสนามกอล์ฟในประเทศไทย ด้วยทำเลที่ตั้งอันโดดเด่นใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ การออกแบบสนามที่ท้าทายโดย Chohei Miyazawa และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันระดับพรีเมียม สนามแห่งนี้ไม่ได้มอบเพียงเกมกอล์ฟ แต่ยังมอบประสบการณ์ที่หรูหรา มืออาชีพ และน่าประทับใจ
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพที่มองหาความท้าทายเชิงเทคนิค นักธุรกิจที่ต้องการผ่อนคลายในช่วงเวลาว่าง หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสบรรยากาศกอล์ฟสุดเอ็กซ์คลูซีฟในกรุงเทพฯ The Royal Golf & Country Club คือจุดหมายปลายทางที่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง การผสมผสานระหว่างดีไซน์ที่งดงาม ความท้าทายเชิงกลยุทธ์ และการบริการระดับโลก ทำให้ที่นี่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดของประเทศไทย
ทำเลที่ตั้งเชิงกลยุทธ์และการเข้าถึงที่สะดวกสบายอย่างยิ่ง
The Royal Golf & Country Club ถือเป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟสุดหรูของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในย่านลาดกระบัง ด้วยทำเลที่ได้เปรียบเพราะห่างจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเพียงประมาณ 15 นาที และเพียง 30 นาทีจากย่านธุรกิจใจกลางเมือง อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้สะดวกผ่านทางด่วนบางนา–ชลบุรี ทำให้ที่นี่เป็นตัวเลือกยอดนิยมไม่เพียงแต่สำหรับนักกอล์ฟชาวไทย แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจที่อยู่ระหว่างการเดินทางหรือแวะพักในกรุงเทพฯ
การที่สนามกอล์ฟแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตลาดกระบัง ยังมอบความสะดวกด้านการเดินทางเพิ่มเติม นักกอล์ฟสามารถมาถึงได้โดยไม่ต้องกังวลกับการจราจรหนาแน่นในเมือง อีกทั้งยังมีผู้เล่นจำนวนมากที่ยืนยันว่าทำเลที่นี่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ ทริปกอล์ฟแบบวันเดียว จากกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง
สำหรับนักกอล์ฟที่เดินทางบ่อย ทำเลนี้เอื้อต่อการวางแผนการออกรอบก่อนหรือหลังขึ้นเครื่องบินได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ในแพ็กเกจสุดพิเศษบางรายการ สนามยังมีบริการ “fly-in tee-off” ที่มาพร้อมบริการวีไอพี เช่น ช่องทางตรวจคนเข้าเมืองแบบด่วน (fast-track) และรถลิมูซีน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่พิเศษสำหรับนักกอล์ฟระดับผู้บริหารและกลุ่มลูกค้าชั้นนำ
จองสนามกอล์ฟแบบง่าย ๆ สะดวกสบายได้แล้ววันนี้ ผ่านแอป GoGolf – ดาวน์โหลดฟรี!
การออกแบบสนาม The Royal Golf & Country Club Bangkok โดย Chohei Miyazawa: การผสมผสานระหว่างกลยุทธ์และความงดงามของธรรมชาติ
สนามกอล์ฟแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น Chohei Miyazawa ผู้เป็นที่รู้จักจากความสามารถในการผสมผสานระหว่างความท้าทายเชิงเทคนิคและความงดงามของภูมิทัศน์ ด้วยความยาวสนามทั้งหมดกว่า 7,123 หลา กับเลย์เอาต์ 18 หลุม พาร์ 72 สนามนี้มีดีไซน์เรียบ (Flat Layout) ที่โดดเด่น เนื่องจากพื้นที่เดิมเป็นทุ่งนามาก่อน
เอกลักษณ์สำคัญ ของสนามคือการใช้ “องค์ประกอบน้ำ” อย่างโดดเด่น มากถึง 12 หลุม ที่ถูกโอบล้อมด้วยทะเลสาบและคลอง จึงทำให้สนามนี้เต็มไปด้วยความท้าทายสำหรับนักกอล์ฟทุกระดับ ยกตัวอย่างเช่น หลุม 12 พาร์ 5 ระยะ 628 หลา ที่ได้รับฉายา “Monster Lat Krabang” เพราะทั้งความยาวและความซับซ้อน หลุมนี้บังคับให้นักกอล์ฟต้องอาศัยพลังตีที่แข็งแรง กลยุทธ์ที่แม่นยำ รวมถึงทักษะการเล่นระยะกลางและสั้น
นอกจากนี้ กรีนของสนาม ยังมีคอนทัวร์แบบนูน (convex) และมีความเร็วสูง (Stimpmeter ประมาณ 11) จึงเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำหรับทักษะการพัตต์ของผู้เล่น โดยเฉพาะนักกอล์ฟมืออาชีพที่จะได้ฝึกความแม่นยำในการอ่านไลน์และควบคุมความเร็วลูก
บังเกอร์ ที่ถูกจัดวางอย่างชาญฉลาดในหลายจุดยังช่วยเสริมเอกลักษณ์ของสนาม โดยเฉพาะบังเกอร์ทรง Mickey Mouse ที่หลุม 16 ซึ่งไม่เพียงเพิ่มเสน่ห์ด้านภาพลักษณ์ แต่ยังทำหน้าที่เป็นกับดักทางเทคนิคที่ต้องการความแม่นยำอย่างมาก
สิ่งอำนวยความสะดวกพรีเมียมมาตรฐานสากล
ในฐานะสนามกอล์ฟระดับพรีเมียม The Royal Golf & Country Club มอบสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตามมาตรฐานสากล คลับเฮาส์หลักถูกออกแบบอย่างหรูหราพร้อมด้วยบอลรูมขนาดใหญ่ เลานจ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟรวมถึง Cigar Lounge และห้องอเนกประสงค์สำหรับการประชุมหรืองานธุรกิจ
สปาและซาวน่าสไตล์ญี่ปุ่น คืออีกหนึ่งจุดเด่น ไม่เพียงเพื่อการผ่อนคลายหลังจากการออกรอบที่เข้มข้น แต่ยังสร้างบรรยากาศแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายได้อย่างเต็มที่
โปรช็อป ของสนามมีสินค้าพรีเมียมครบถ้วนจากแบรนด์กอล์ฟชั้นนำอย่าง Titleist, Callaway และ Taylormade พร้อมบริการให้เช่าอุปกรณ์กอล์ฟ รองเท้า และร่ม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักกอล์ฟทุกคน
ห้องล็อกเกอร์ ถูกออกแบบกว้างขวาง มีฝักบัวน้ำอุ่น และตู้เก็บของส่วนตัวที่สะอาดทันสมัย ส่วน ห้องอาหารหลัก รองรับแขกได้ถึง 200 คน พร้อมเมนูไทย เอเชีย และตะวันตก อีกทั้งยังมีห้องส่วนตัวสำหรับแขกวีไอพีหรือโอกาสพิเศษ เช่น งานเลี้ยงและงานธุรกิจ
ความท้าทายที่นักกอล์ฟต้องเผชิญ
หนึ่งในประเด็นที่นักกอล์ฟทั้งมืออาชีพและสมัครเล่นให้ความสนใจมากที่สุด คือ ระดับความท้าทายทางเทคนิคของการออกแบบสนาม อุปสรรคน้ำ (Water Hazard) ถูกนำมาใช้แทบทุกหลุม ทำให้นักกอล์ฟจำเป็นต้องควบคุมระยะการตีได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะในหลุมที่แฟร์เวย์อยู่ติดกับทะเลสาบหรือคลอง
ความเร็วของกรีนที่สูง รวมถึงคอนทัวร์ที่เป็นลักษณะนูน (Convex) ก็ยิ่งเพิ่มความยาก ต้องอาศัยสมาธิและทักษะการพัตต์ที่แม่นยำ ผู้เล่นที่คุ้นเคยกับกรีนมาตรฐานจะต้องปรับกลยุทธ์ใหม่เมื่อลงสนามนี้
หลุม 12 ถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญ ด้วยความยาวถึง 628 หลา และมีทะเลสาบขนาดใหญ่พาดผ่านแฟร์เวย์ ทำให้การตีครั้งที่สองและสามกลายเป็นจุดชี้ชะตาเพื่อรักษาลูกให้อยู่ในแนวปลอดภัย
นอกจากนี้ หลุมพาร์ 3 หลายหลุมยังถูกออกแบบให้มีระยะค่อนข้างไกล และเต็มไปด้วยบังเกอร์รวมถึงอุปสรรคน้ำ ซึ่งเพิ่มความท้าทายโดยเฉพาะสำหรับนักกอล์ฟที่มีแฮนดิแคปสูง หากผู้เล่นไม่ปรับกลยุทธ์หรือเลือกไม้กอล์ฟอย่างเหมาะสม ลูกมีโอกาสสูงที่จะตกในบังเกอร์ หรือแม้กระทั่งออกนอกเขตสนาม (Out of Bounds)
อัตราค่ากรีนฟีและรายละเอียดค่าใช้จ่าย
อัตราค่ากรีนฟีของ The Royal Golf & Country Club จัดอยู่ในระดับพรีเมียม เมื่อเทียบกับมาตรฐานสนามกอล์ฟในกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ราคานี้ถือว่าสมเหตุสมผลกับคุณภาพสนามและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มอบให้
ราคาล่าสุดต่อปี 2025:
ประเภทการเล่น | วัน | ราคา (บาท) |
---|---|---|
กรีนฟี 18 หลุม | วันธรรมดา | 3,500 บาท |
กรีนฟี 18 หลุม | วันหยุด/นักขัตฤกษ์ | 4,500 บาท |
แคดดี้ 18 หลุม | – | 400 บาท |
แคดดี้ 9 หลุม | – | 250 บาท |
รถกอล์ฟ (18 หลุม) | – | 850 บาท |
ราคานี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) และใช้ได้ทั้งรอบเช้าและรอบบ่ายหลัง 11.00 น. นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจราคาพิเศษผ่านเอเจนต์ เช่น แพ็กเกจวันธรรมดาเพียง 2,900 บาท รวมกรีนฟี + แคดดี้ + รถกอล์ฟ
โดยรวมแล้ว ค่าใช้จ่ายถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับสิ่งอำนวยความสะดวกและคุณภาพสนามที่ได้รับ ทำให้ The Royal Golf & Country Club เป็นการลงทุนด้านประสบการณ์กอล์ฟที่คุ้มค่าและน่าจดจำ
ฉันอยากจอง The Royal Golf & Country Club Golf Course ผ่าน GoGolf ตอนนี้เลย!
รีวิวนักกอล์ฟและคำยืนยันจากมืออาชีพ
มีรีวิวจำนวนมากจากทั้งนักกอล์ฟชาวไทยและนักกอล์ฟต่างชาติที่กล่าวถึงว่า The Royal Golf & Country Club เป็นหนึ่งในสนามที่มีเลย์เอาต์ดีที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ การผสมผสานระหว่างวิวธรรมชาติ ความท้าทายเชิงเทคนิค และสิ่งอำนวยความสะดุดสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ทำให้สนามนี้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของนักกอล์ฟมากประสบการณ์
หลายรีวิวแสดงความประทับใจต่อคุณภาพของแฟร์เวย์และกรีนที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่บริการจากสตาฟและมาร์แชลก็ได้รับการชื่นชมในด้านความเป็นมืออาชีพและช่วยสร้างความสะดวกสบายในการเล่น สนามยังมี คลับเฮาส์หรูหรา ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพักผ่อนและพบปะสังสรรค์หลังการออกรอบ
สนามแห่งนี้ยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกอล์ฟระดับสำคัญอยู่บ่อยครั้ง ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติ ยิ่งเป็นการตอกย้ำชื่อเสียงว่าเป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟชั้นนำ ที่รักษามาตรฐานสูงทั้งด้านการบริการและการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน
[ Follow our social media Account: GoGolf Instagram | GoGolf Facebook | GoGolf X ]