The Mines Resort and Golf Club ไม่ได้เป็นเพียงสนามกอล์ฟทั่วไป แต่คือการผสมผสานระหว่าง ประวัติศาสตร์ ความเอ็กซ์คลูซีฟ และความงดงามของธรรมชาติที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างประณีต จากพื้นที่ซึ่งเคยเป็น เหมืองดีบุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสนามกอล์ฟระดับเวิลด์คลาส 18 หลุม พาร์ 72 ระยะทาง 6,191 เมตร ที่ออกแบบอย่างงดงามโดยสถาปนิกสนามกอล์ฟชั้นนำระดับโลก
ด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และประสบการณ์การเล่นที่ผสานระหว่าง ป่าไม้และทะเลสาบ สนามแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงระดับนานาชาติในฐานะ เจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการใหญ่ หลายรายการ ทำให้ The Mines เป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในประเทศมาเลเซีย
อัตราค่ากรีนฟี เริ่มต้นตั้งแต่ 59 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันธรรมดา และ 72 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งถือว่า เข้าถึงได้มากกว่าสนามระดับไฮเอนด์อื่น ๆ ในเอเชีย เมื่อเทียบกับคุณภาพของสนามและบริการระดับพรีเมียมที่ได้รับ
สำหรับนักกอล์ฟที่กำลังมองหาประสบการณ์ที่ผสมผสานระหว่าง ความท้าทายทางเทคนิค เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู สนามแห่งนี้คือ จุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาเยือนประเทศมาเลเซีย และนี่คือรีวิวฉบับเต็มจาก GoGolf
ประวัติและการเปลี่ยนแปลงจากเหมืองดีบุกสู่สนามกอล์ฟระดับโลก

The Mines Resort and Golf Club มีเรื่องราวที่โดดเด่นและไม่เหมือนใคร แตกต่างจากสนามกอล์ฟทั่วไปทั้งในมาเลเซียและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สนามแห่งนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่ของ Hong Fatt Tin Mine — เหมืองดีบุกที่เคยใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1909 จนถึง 1982 หลังจากปิดเหมือง พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นผืนดินที่เสียหายจากการทำเหมืองอย่างหนัก มีหลุมลึก พื้นดินไม่สม่ำเสมอ และสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้ง
แนวคิดในการฟื้นฟูเริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้พื้นที่แห่งนี้ ไม่เพียงเป็นการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม แต่ยังกลายเป็น สัญลักษณ์แห่งความหรูหราในโลกของกอล์ฟนานาชาติ วิสัยทัศน์นี้เกิดขึ้นผ่านความร่วมมือของสามสถาปนิกชื่อดังระดับโลก ได้แก่ Robert Trent Jones Jr., Donald Knott และ Gary Linn ซึ่งมีประสบการณ์มากมายในการออกแบบสนามกอล์ฟระดับเวิลด์คลาส พวกเขาสามารถสร้างสรรค์ “ผลงานชิ้นเอก” ที่ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง ภูมิสถาปัตยกรรมสมัยใหม่และความงดงามของธรรมชาติที่เหลืออยู่จากพื้นที่เหมืองเดิม
หนึ่งในนวัตกรรมสำคัญของการพัฒนาสนามนี้คือการใช้ ทรายพิเศษบนแฟร์เวย์ ที่ช่วยดูดซับน้ำในฤดูฝน และทำหน้าที่เป็น ชั้นกรองป้องกันการปนเปื้อนของดิน จากสารเคมีที่ตกค้างในช่วงการทำเหมืองเดิม โครงการนี้ไม่เพียงช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของผืนดิน แต่ยังสร้างสนามกอล์ฟที่สามารถเล่นได้ตลอดทั้งปีภายใต้สภาพสนามที่มั่นคงและมีคุณภาพสูง
ปัจจุบัน The Mines Resort and Golf Club ยืนหยัดในฐานะ สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จของการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และเป็น หลักฐานที่ชัดเจนว่าพื้นที่หลังเหมืองสามารถเปลี่ยนเป็นสถานที่พักผ่อนและเล่นกอล์ฟระดับโลกได้อย่างแท้จริง การผสมผสานระหว่าง คุณค่าทางประวัติศาสตร์ ความงามของภูมิทัศน์ และเอกลักษณ์แห่งความเอ็กซ์คลูซีฟ ทำให้สนามแห่งนี้เป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟที่พิเศษและโดดเด่นที่สุดในเอเชีย
ค้นหาสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดใกล้คุณ – ดาวน์โหลด GoGolf ได้เลย!
การออกแบบสนามโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลก

The Mines Resort and Golf Club ออกแบบเป็นสนาม 18 หลุม พาร์ 72 ความยาวประมาณ 6,191 เมตร โดยมุ่งเน้นให้เป็นสนามที่ เล่นได้อย่างราบรื่นสำหรับทุกระดับฝีมือ (golfer-friendly) แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงความ ท้าทายเชิงกลยุทธ์และเทคนิคการเล่น อย่างลงตัว ผลงานการออกแบบร่วมกันของสามสถาปนิกชื่อดังระดับโลก ได้แก่ Robert Trent Jones Jr., Donald Knott และ Gary Linn สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานที่สมดุลระหว่าง ความงามเชิงศิลป์ กลยุทธ์ของเกม และประสบการณ์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์
จุดเด่นของดีไซน์สนามแบ่งออกเป็นสองลักษณะสำคัญ:
- เก้าหลุมแรก: ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าธรรมชาติ มีคอนทัวร์สนามที่ขึ้นลงอย่างชัดเจน ผู้เล่นจะได้เผชิญกับ อุปสรรคน้ำและบังเกอร์ที่จัดวางอย่างมีกลยุทธ์ ตัวอย่างเช่น หลุมที่ 6 (พาร์ 4) มีความลาดเอียงทางซ้าย เป็นหนึ่งในหลุมที่โดดเด่นซึ่งทดสอบความแม่นยำของการตี ส่วน หลุมที่ 9 มีแฟร์เวย์ลาดลงพร้อมวิวทิวเขาที่สวยงาม มอบทั้งความท้าทายเชิงเทคนิคและประสบการณ์ทางสายตาอันน่าประทับใจ
- เก้าหลุมหลัง: ตั้งอยู่รอบ ทะเลสาบขนาดใหญ่ซึ่งเดิมเป็นบ่อเหมืองดีบุก ปัจจุบันกลายเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิทัศน์สนามกอล์ฟ หลุมในบริเวณนี้ให้ความรู้สึกท้าทายและเสี่ยงสูง โดยเฉพาะหลุมที่อยู่ตามแนวขอบทะเลสาบ เช่น หลุมที่ 12 ซึ่งสามารถมองเห็นวิวของ Palace of the Golden Horses โรงแรมหรูชื่อดังของมาเลเซียที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศแห่งความเอ็กซ์คลูซีฟให้กับการออกรอบ
นอกจากนี้ยังมี หลุมพาร์ 3 ในเขตป่า ที่โดดเด่นด้วยวิวหน้าผาและรากไม้โผล่พาดเหนือพื้นดิน สร้างเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากสนามทั่วไปที่มักมีดีไซน์เรียบเรียงอย่างเป็นทางการ
ด้วยการออกแบบที่ลงตัวระหว่าง ความท้าทายทางเทคนิค ความงดงามของธรรมชาติ และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ The Mines Resort and Golf Club จึงไม่เพียงเป็นสนามกอล์ฟที่ท้าทายสำหรับนักกอล์ฟมืออาชีพเท่านั้น แต่ยังเป็น ประสบการณ์ที่เชื่อมโยงทั้งสายตา อารมณ์ และกลยุทธ์การเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สิ่งอำนวยความสะดวกสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อประสบการณ์กอล์ฟระดับพรีเมียม
ในฐานะสนามกอล์ฟส่วนตัว (Private Golf Course) The Mines Resort and Golf Club มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสมาชิก (Member) และแขกผู้ได้รับเชิญเท่านั้น ซึ่งตอกย้ำสถานะความหรูหราและเอกสิทธิ์ของสนามแห่งนี้ในประเทศมาเลเซีย
สิ่งอำนวยความสะดวกหลักที่โดดเด่น ได้แก่:
- คลับเฮาส์สุดหรู: ศูนย์กลางของกิจกรรมทางสังคม ตกแต่งอย่างสง่างามพร้อมเลานจ์สุดหรู ห้องอาหาร และห้องประชุมสำหรับงานธุรกิจหรือกิจกรรมส่วนตัว
- Pro Shop: จำหน่ายอุปกรณ์กอล์ฟคุณภาพสูงครบครัน ทั้งไม้กอล์ฟ ลูกกอล์ฟ เสื้อผ้า และอุปกรณ์เสริมจากแบรนด์ชั้นนำระดับนานาชาติ
- พื้นที่ฝึกซ้อมครบวงจร: ประกอบด้วย Driving Range, Chipping Green และ Putting Green เพื่อให้นักกอล์ฟได้ฝึกฝนทุกแง่มุมของเกมก่อนออกรอบจริง
- สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อนและฟื้นฟู: มีห้องล็อกเกอร์สมัยใหม่ ห้องซาวน่า และโซนพักผ่อนสำหรับการผ่อนคลายหลังการเล่น
นอกจากนี้ ทำเลที่ตั้งของสนามซึ่งอยู่ติดกับ ทะเลสาบที่เกิดจากเหมืองดีบุกเก่า ยังมอบทัศนียภาพที่ไม่เหมือนใคร จากบริเวณ คลับเฮาส์ ผู้มาเยือนสามารถมองเห็นวิวที่สวยงามผสมผสานระหว่าง ร่องรอยของอดีตเหมืองแร่ กับ ความหรูหราของรีสอร์ทระดับโลกในปัจจุบัน ได้อย่างลงตัว ทำให้ทุกช่วงเวลาที่ The Mines เป็นมากกว่าการเล่นกอล์ฟ — แต่คือการสัมผัสประสบการณ์แห่งความสง่างามในทุกมิติ
ประสบการณ์การเล่นกอล์ฟที่ The Mines Resort and Golf Club

การออกรอบที่ The Mines Resort คือประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ตั้งแต่หลุมที่โอบล้อมด้วยป่าธรรมชาติ ไปจนถึงหลุมที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบอันเป็นเอกลักษณ์ของสนามแห่งนี้
- แฟร์เวย์กว้างแต่ต้องใช้กลยุทธ์: แม้แฟร์เวย์จะกว้าง แต่ “ความแม่นยำ” ยังคงเป็นกุญแจสำคัญ เนื่องจากกรีนปกคลุมด้วยหญ้าหนาทึบและมีความลาดเอียงอ่อน ๆ ซึ่งทดสอบทักษะการคำนวณระยะและการควบคุมลูกอย่างละเอียด
- พื้นที่ชิพปิ้งสุดท้าทาย: หลายจุดของสนามมีพื้นที่ชิพปิ้งแคบและเว้าลึก บังคับให้นักกอล์ฟต้องใช้เทคนิคการตีลูกสั้น (approach) อย่างแม่นยำและมีจังหวะที่ดี
- หลุมพาร์ 3 ท่ามกลางป่า: มอบประสบการณ์ที่แตกต่างจากสนามทั่วไป ด้วยทัศนียภาพของรากไม้ที่โผล่พาดเหนือพื้นและบรรยากาศของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ให้ความรู้สึกเหมือนได้เล่นกอล์ฟท่ามกลางป่าจริง ๆ
- หลุมริมทะเลสาบ: โดยเฉพาะ หลุมที่ 12 ที่มองเห็นวิวของ Palace of the Golden Horses โรงแรมสุดหรูระดับตำนานของมาเลเซีย รวมถึงหลุมที่เรียงรายตามแนวทะเลสาบซึ่งเพิ่มทั้งความสวยงามและความท้าทายของเกม ทำให้ผู้เล่นรู้สึกตื่นเต้นและประทับใจในเวลาเดียวกัน
การผสมผสานระหว่าง ความท้าทายทางเทคนิคและความงดงามทางสายตา ทำให้ The Mines Resort and Golf Club กลายเป็นสนามโปรดของทั้งนักกอล์ฟมืออาชีพและมือสมัครเล่น — สถานที่ที่ทุกการสวิงเต็มไปด้วยทั้งกลยุทธ์ ความตื่นเต้น และความหรูหราในทุกจังหวะของเกม
รีวิวจากผู้เล่นและชื่อเสียงระดับนานาชาติของ The Mines Resort and Golf Club
นักกอล์ฟที่เคยออกรอบที่ The Mines Resort and Golf Club ส่วนใหญ่ให้คะแนนรีวิวในระดับ ยอดเยี่ยม พร้อมคำชมที่สะท้อนถึงคุณภาพระดับโลกของสนามกอล์ฟแห่งนี้ โดยมีจุดเด่นที่ถูกกล่าวถึงบ่อยครั้งดังนี้:
- งานออกแบบโดยสถาปนิกระดับโลก: การออกแบบโดย Robert Trent Jones Jr. และทีมของเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเลย์เอาท์ที่ดีที่สุดในเอเชีย ด้วยการจัดวางหลุมที่ชาญฉลาดและทัศนียภาพที่สวยงามในทุกมุมมอง
- สภาพสนามยอดเยี่ยม: แฟร์เวย์ที่กว้างเรียบและได้รับการดูแลอย่างดี กรีนที่ละเอียดและรวดเร็ว รวมถึงบังเกอร์ที่ใช้ทรายคุณภาพสูง ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนแข่งขันในสนามระดับทัวร์นาเมนต์จริง
- ความเป็นส่วนตัวและบรรยากาศเงียบสงบ: ด้วยสถานะเป็นสนามส่วนตัว (Private Course) สนามแห่งนี้จึงห่างไกลจากความวุ่นวาย มอบบรรยากาศที่สงบเหมาะสำหรับการโฟกัสและดื่มด่ำกับการเล่นกอล์ฟอย่างเต็มที่
- สนามแข่งขันระดับโลก: The Mines เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกอล์ฟชื่อดัง เช่น Kuala Lumpur Open (Asian Tour) และ World Cup of Golf ปี 1997 ซึ่งมี Tiger Woods เข้าร่วมแข่งขันและคว้าชัยชนะในรายการนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวช่วยยกระดับชื่อเสียงของสนามให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก
ส่วนข้อวิจารณ์ที่พบได้บ้างคือเรื่อง การเข้าถึงสนามที่จำกัด เนื่องจากอนุญาตเฉพาะสมาชิกหรือผู้ได้รับเชิญเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นี่เองคือสิ่งที่ทำให้ The Mines Resort and Golf Club ยังคงรักษาความ หรูหราและเอกสิทธิ์เฉพาะตัว แตกต่างจากสนามกอล์ฟสาธารณะทั่วไปในมาเลเซียอย่างชัดเจน
อัตราค่ากรีนฟี The Mines Resort and Golf Club ประจำปี 2025
สำหรับปี 2025 อัตราค่ากรีนฟีของ The Mines Resort and Golf Club มีรายละเอียดดังนี้:
วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี:
- 18 หลุม: ประมาณ 59 ดอลลาร์สหรัฐฯ (≈ RM 275)
- 9 หลุม: ประมาณ 35 ดอลลาร์สหรัฐฯ (≈ RM 165)
- ราคาพิเศษสำหรับผู้เล่นอายุ 60 ปีขึ้นไป (ก่อนเวลา 15.00 น.):
- 18 หลุม: 42 ดอลลาร์สหรัฐฯ
- 9 หลุม: 28 ดอลลาร์สหรัฐฯ
วันศุกร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์:
- 18 หลุม: ประมาณ 72 ดอลลาร์สหรัฐฯ (≈ RM 335)
- 9 หลุม: ประมาณ 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ (≈ RM 185)
- ราคาพิเศษสำหรับผู้เล่นอายุ 60 ปีขึ้นไป (หลังเวลา 15.00 น.):
- 18 หลุม: 52 ดอลลาร์สหรัฐฯ
- 9 หลุม: 32 ดอลลาร์สหรัฐฯ
แพ็กเกจเล่นรอบเย็น (Twilight Package)
- เริ่มต้นที่ 45 – 59 ดอลลาร์สหรัฐฯ (รวมรถกอล์ฟแล้ว)
- ราคาขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการเล่น
ราคาทั้งหมด รวมค่ารถกอล์ฟ (Buggy) แล้ว และอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลหรือดุลยพินิจของฝ่ายบริหาร ทั้งนี้อัตราข้างต้นถือเป็น แนวอ้างอิงล่าสุดประจำปี 2025
เมื่อเปรียบเทียบกับสนามกอล์ฟระดับพรีเมียมอื่นในมาเลเซีย The Mines Resort and Golf Club จัดอยู่ในระดับ กลางถึงสูง (Upper Mid-tier) ซึ่งถือว่า คุ้มค่าและสมเหตุสมผลกับชื่อเสียง คุณภาพสนาม และสิ่งอำนวยความสะดวกสุดหรู ที่สนามแห่งนี้นำเสนอ
[ Follow our social media Account: GoGolf Instagram | GoGolf Facebook | GoGolf X ]