รีวิว Thana City Golf & Country Club: สนามกอล์ฟผลงานออกแบบโดย Greg Norman พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพรีเมียม ใกล้กรุงเทพฯ

Thana City Golf & Country Club สมควรถูกยกให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางกอล์ฟที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ด้วยการออกแบบโดย Greg Norman ที่เน้นทั้งกลยุทธ์และความสวยงาม สนามแห่งนี้มอบประสบการณ์การเล่นที่ทั้งท้าทายและน่าพึงพอใจ

จุดเด่นของ Thana City อยู่ที่การผสมผสานระหว่างดีไซน์สนามที่มีเอกลักษณ์ สภาพกรีนและแฟร์เวย์ที่ดูแลอย่างดีเสมอ สิ่งอำนวยความสะดวกในคลับเฮาส์ระดับพรีเมียม รวมถึงการบริการมืออาชีพจากแคดดี้และพนักงาน อีกทั้งทำเลที่ใกล้กับกรุงเทพฯ และสนามบินสุวรรณภูมิ ยิ่งทำให้ที่นี่เดินทางสะดวก เหมาะทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ

แม้จะมีข้อสังเกตเล็กน้อย เช่น เกมที่อาจช้าลงในช่วงเวลาที่คนหนาแน่น หรือสิ่งอำนวยความสะดวกบางส่วนที่ควรได้รับการปรับปรุง แต่ก็ไม่ได้ลดทอนเสน่ห์หลักของ Thana City เลย ราคาที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับคุณภาพสนามชั้นนำ ยิ่งทำให้สนามนี้เป็นตัวเลือกที่โดดเด่น

สำหรับนักกอล์ฟที่กำลังมองหาความลงตัวระหว่าง ความท้าทายทางเทคนิค, ทิวทัศน์ธรรมชาติแบบทรอปิคัล, และ สิ่งอำนวยความสะดวกหรูหรา Thana City Golf & Country Club คือคำตอบที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการออกรอบสบาย ๆ ก่อนขึ้นเครื่อง การแข่งขันทัวร์นาเมนต์ หรือเพียงเพื่อสัมผัสบรรยากาศรีสอร์ตสุดพรีเมียม ที่นี่พร้อมมอบประสบการณ์กอล์ฟที่น่าจดจำเสมอ

ประวัติและทำเลที่ตั้งอันได้เปรียบของ Thana City Golf & Country Club

ประวัติและทำเลที่ตั้งอันได้เปรียบของ Thana City Golf & Country Club

Thana City Golf & Country Club เป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟที่มีชื่อเสียงที่สุดของไทย ตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 25 นาทีจากใจกลางกรุงเทพฯ บนถนนบางนา–ตราด กิโลเมตรที่ 14 ทำเลที่ตั้งจึงสะดวกสำหรับทั้งนักกอล์ฟชาวไทยและต่างชาติ อีกทั้งยังอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการออกรอบก่อนบินกลับ หรือทันทีหลังเดินทางมาถึงประเทศไทย

สนามแห่งนี้ออกแบบโดยตำนานนักกอล์ฟระดับโลก Greg Norman หรือที่รู้จักกันในฉายา “The Shark” ผู้มีชื่อเสียงในการสร้างสนามที่เน้นกลยุทธ์ ความงดงาม และความสมดุลระหว่างความท้าทายกับทัศนียภาพธรรมชาติ Thana City ถือเป็นหนึ่งในผลงานเด่นของเขาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังคงได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน

สนามมีความยาวราว 7,008 หลา พาร์ 72 ตั้งแต่แรกเริ่มถูกวางคอนเซ็ปต์เพื่อมอบประสบการณ์ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นนักกอล์ฟอาชีพ มือสมัครเล่น หรือผู้เริ่มต้น โดย Norman ได้ออกแบบโดยคงไว้ซึ่งองค์ประกอบธรรมชาติ ทั้งทะเลสาบ คลองเล็ก และพันธุ์ไม้เขตร้อนของไทย ทำให้สนามมีเสน่ห์ทั้งความท้าทายและความสวยงาม

หนึ่งในจุดแข็งสำคัญคือ ระบบระบายน้ำที่ทันสมัย ซึ่งช่วยให้สามารถออกรอบได้ตลอดทั้งปี แม้หลังฝนตกหนัก สนามยังคงรักษาคุณภาพแฟร์เวย์และกรีนให้อยู่ในสภาพดีเยี่ยม

นอกเหนือจากทำเลและการออกแบบแล้ว Thana City Golf & Country Club ยังเป็น ไลฟ์สไตล์เดสติเนชัน ที่โดดเด่น มีการจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับใหญ่ กิจกรรมองค์กร และงานสังคมอยู่เสมอ ทำให้ที่นี่ไม่ใช่แค่สนามกอล์ฟ แต่ยังเป็นศูนย์กลางที่ผสานกีฬา ธุรกิจ และการพักผ่อนในคอมเพล็กซ์สุดหรูที่เดินทางสะดวกจากใจกลางกรุงเทพฯ

โดยรวมแล้ว Thana City ถือเป็นสนามที่มีความสำคัญทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ ทำเล และแนวคิดการออกแบบ นักกอล์ฟไม่ได้มาเพียงเพื่อเล่น แต่ยังมาสัมผัสบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากดีไซน์และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลกที่ครบครัน

ค้นหาสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดใกล้คุณ – ดาวน์โหลด GoGolf ได้เลย!

จุดเด่นของการออกแบบสนามกอล์ฟโดย Greg Norman

จุดเด่นของการออกแบบสนามกอล์ฟโดย Greg Norman

ในฐานะสนามที่ออกแบบโดย Greg Norman, Thana City Golf & Country Club จึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างชัดเจน สนามขนาด 7,008 หลา พาร์ 72 แห่งนี้ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง ความสวยงามของธรรมชาติ และ ความท้าทายเชิงเทคนิค ที่ทำให้การออกรอบในแต่ละครั้งแตกต่างกันไป Norman มีชื่อเสียงในการออกแบบที่เน้น “กลยุทธ์” มากกว่าพลังในการตี และสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนที่ Thana City

หนึ่งในจุดเด่นคือ อุปสรรคน้ำ ที่มีบทบาทในมากถึง 14 หลุม ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบหรือธารน้ำเล็ก ๆ สิ่งเหล่านี้สร้างแรงกดดันทางจิตใจให้ผู้เล่น โดยเฉพาะเมื่อต้องตีช็อตแม่นยำ นักกอล์ฟหลายคนถึงกับแนะนำให้พกบอลเพิ่ม เพราะรัฟและอุปสรรคน้ำที่นี่พร้อมจะเป็น “กับดัก” ได้เสมอ

บังเกอร์ ก็ถูกออกแบบอย่างมีกลยุทธ์ ทั้งบังเกอร์ขนาดใหญ่แบบแบน และกรีนที่มีลอนเล็กน้อย ล้วนเพิ่มความซับซ้อนของเกม Norman ออกแบบเลย์เอาต์อย่างชาญฉลาด ทำให้แต่ละหลุมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และบังคับให้ผู้เล่นคิดให้รอบคอบเรื่องการเลือกไม้ วิธีการตี และการเข้ากรีน

ไฮไลต์ที่เป็นที่รู้จักคือ สามหลุมสุดท้ายที่เรียกว่า “Shark Bite” ซึ่งเป็นบททดสอบที่แท้จริงของผู้เล่น ด้วยการผสมผสานระหว่างอุปสรรคน้ำ บังเกอร์ และระยะช็อตที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูง หลายคนมองว่านี่คือประสบการณ์ที่ทั้งกดดันและสนุกที่สุดของสนาม

อีกหนึ่งจุดแข็งคือ ระบบระบายน้ำที่ล้ำสมัย ทำให้สามารถออกรอบได้ตลอดทั้งปี แม้ในช่วงฝนตกหนัก สนามยังคงรักษาคุณภาพแฟร์เวย์ให้แห้ง และกรีนให้เร็วตามมาตรฐาน นี่คือเหตุผลที่ Thana City ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสนามที่มีคุณภาพสม่ำเสมอที่สุดในกรุงเทพฯ

โดยรวมแล้ว การออกแบบของ Greg Norman ที่ Thana City ไม่ได้เน้นแค่ความงาม แต่ยังสร้างประสบการณ์การเล่นที่เต็มไปด้วยกลยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นนักกอล์ฟมือใหม่หรือมืออาชีพ สนามแห่งนี้พร้อมมอบความท้าทายที่ไม่เหมือนใครให้กับทุกคน

สิ่งอำนวยความสะดวกพรีเมียมในคลับเฮาส์และคอมเพล็กซ์กีฬา

สิ่งอำนวยความสะดวกพรีเมียมในคลับเฮาส์และคอมเพล็กซ์กีฬา

Thana City Golf & Country Club ไม่ได้มีชื่อเสียงเพียงเพราะการออกแบบสนามเท่านั้น แต่ยังโดดเด่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมภายในคอมเพล็กซ์ คลับเฮาส์หรูหราทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางกิจกรรม มอบบริการครบครันเพื่อความสะดวกสบายของผู้มาเยือน

ห้องอาหาร ของคลับเฮาส์นำเสนอประสบการณ์อาหารนานาชาติ ตั้งแต่อาหารไทยแท้ ติ่มซำจีน ซูชิญี่ปุ่น ไปจนถึงอาหารตะวันตกสมัยใหม่ เมนูหลากหลายถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งนักกอล์ฟและผู้มาเยือนทั่วไป โดยได้รับคำชมด้านคุณภาพอาหารและการบริการที่รวดเร็ว เป็นมิตร

นอกจากนี้ยังมี เลานจ์และห้องประชุม กว้างขวาง เหมาะสำหรับการจัดงานองค์กร การประชุมธุรกิจ หรือกิจกรรมสังคมต่าง ๆ บรรยากาศหรูหราและเป็นทางการ ทำให้ Thana City เป็นตัวเลือกยอดนิยมของบริษัทใหญ่ ๆ ที่ต้องการสถานที่จัดงานอย่างมีระดับ

ด้านกีฬาและไลฟ์สไตล์ก็ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น สนามเทนนิส ฟิตเนสทันสมัย และสระว่ายน้ำสไตล์รีสอร์ต ทำให้ Thana City เป็นมากกว่าสนามกอล์ฟ แต่เป็น ไลฟ์สไตล์เดสติเนชัน ที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินได้ แม้จะไม่ออกรอบกอล์ฟก็ตาม

ดรายฟ์เรนจ์ ของ Thana City ก็ได้รับการยกย่อง ด้วยดีไซน์ทันสมัยและการสนับสนุนจากสถาบันกอล์ฟระดับโลก ทำให้เหมาะทั้งนักกอล์ฟมือใหม่ที่ฝึกซ้อม และมือโปรที่ต้องการขัดเกลาฝีมือ ขณะเดียวกัน โปรช็อป ภายในก็จัดเต็มด้วยอุปกรณ์ เสื้อผ้า และแอ็กเซสซอรีแบรนด์ดัง

ห้องล็อกเกอร์ กว้างขวางและทันสมัยเพิ่มความสะดวกสบาย แม้มีบางความเห็นเกี่ยวกับซาวน่าที่ไม่พร้อมใช้งาน แต่โดยรวมคลับเฮาส์ยังคงได้รับคำชมเรื่องความสะอาดและความสะดวกสบาย

โดยสรุป สิ่งอำนวยความสะดวกของ Thana City Golf & Country Club ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์มาตรฐานระดับสากล มอบประสบการณ์ที่ครบถ้วนทั้งด้านกีฬา อาหาร และไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง

ประสบการณ์การออกรอบกอล์ฟที่ Thana City Golf & Country Club

ประสบการณ์การออกรอบกอล์ฟที่ Thana City Golf & Country Club

การออกรอบที่ Thana City Golf & Country Club ถูกบรรยายว่าเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานโดยนักกอล์ฟทั้งชาวไทยและต่างชาติ จุดแรกที่มักได้รับคำชมคือ สภาพสนามที่ได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยม กรีนมีความเร็วและแฟร์เวย์เรียบร้อย ทำให้ได้ประสบการณ์การเล่นที่สม่ำเสมอ แม้หลังฝนตกหนัก

การเล่นในสนามผลงานการออกแบบของ Greg Norman เปรียบเสมือนการทดสอบกลยุทธ์ ด้วยการที่มีถึง 14 หลุมเกี่ยวข้องกับอุปสรรคน้ำ ผู้เล่นจึงต้องให้ความสำคัญกับความแม่นยำมากกว่าพลังการตี สำหรับมือใหม่ ความท้าทายนี้อาจดูตึงเครียด แต่สำหรับผู้เล่นที่มีประสบการณ์ นี่คือเสน่ห์หลักของสนาม

สามหลุมสุดท้าย “Shark Bite” คือไฮไลต์สำคัญของสนาม นักกอล์ฟหลายคนบอกว่านี่คือช่วงเวลาสำคัญของเกม ความกดดันทางจิตใจเพิ่มสูงขึ้น ผู้เล่นต้องตัดสินใจเชิงกลยุทธ์อย่างรวดเร็ว และผลลัพธ์มักจะเป็นตัวชี้ขาดคะแนนโดยรวม

นอกเหนือจากความท้าทายด้านเทคนิคแล้ว บรรยากาศของสนาม ยังช่วยเพิ่มคุณค่า พื้นที่ที่รายล้อมด้วยทะเลสาบ ธารน้ำ และพืชพรรณเขตร้อน สร้างบรรยากาศที่ทั้งผ่อนคลายและงดงาม เป็นสมดุลที่ลงตัวระหว่างความกดดันของเกมและการพักผ่อนทางสายตา

การบริการจากแคดดี้ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็ง หลายรีวิวระบุว่าแคดดี้ที่นี่เป็นมืออาชีพ เป็นมิตร และให้คำแนะนำได้อย่างมีประโยชน์ ตั้งแต่การเลือกไม้ การอ่านกรีน ไปจนถึงกลยุทธ์การตี ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นอย่างมาก

แม้ประสบการณ์โดยรวมจะเป็นบวก แต่ยังมีข้อสังเกตเล็กน้อย เช่น เกมที่ช้า ในช่วงเวลาที่สนามหนาแน่น เนื่องจากมีนโยบายอนุญาตให้ผู้เล่นสูงสุด 5 คนต่อกลุ่ม ทำให้เกิดการรอคิวที่ทีบ็อกซ์ รวมถึงบางความคิดเห็นที่กล่าวถึง พนักงานต้อนรับซึ่งไม่ถนัดภาษาอังกฤษ แม้ยังคงมีท่าทีที่เป็นมิตร

โดยสรุป การออกรอบกอล์ฟที่ Thana City Golf & Country Club มอบความพึงพอใจอย่างแท้จริง ด้วย ความท้าทายเชิงกลยุทธ์แบบ Greg Norman, สภาพสนามคุณภาพสูง, ทิวทัศน์ที่งดงาม, และ การบริการระดับมืออาชีพ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดรอบกรุงเทพฯ

ค่า Green Fee และแพ็กเกจการเล่น

ค่า Green Fee และแพ็กเกจการเล่น

ในฐานะสนามกอล์ฟระดับโลก Thana City Golf & Country Club กำหนดอัตราค่าบริการที่สอดคล้องกับคุณภาพที่มอบให้ สำหรับปี 2025 อัตราค่า Green Fee วันธรรมดา เริ่มต้นที่ประมาณ 2,900 บาท (รวมค่าแคดดี้แล้ว) ส่วน รถกอล์ฟ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 800 บาทต่อผู้เล่น

ในช่วง วันหยุดสุดสัปดาห์และวันนักขัตฤกษ์ ราคาจะสูงขึ้น โดยมี ค่าบวกเพิ่ม (surcharge) ประมาณ 1,200 บาท จากราคาวันธรรมดา ทำให้ค่าใช้จ่ายรวมต่อรอบอยู่ที่ประมาณ 4,000 – 5,000 บาท (รวมแคดดี้และรถกอล์ฟแล้ว)

นอกจากนี้ยังมี แพ็กเกจพิเศษ ที่รวมบริการรับ–ส่งจากโรงแรม โดยมีราคาตั้งแต่ 4,200 – 6,600 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เล่นและประเภทแพ็กเกจ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการความสะดวกสบายครบวงจร

ฉันอยากจอง Thana City Golf & Country Club ผ่าน GoGolf ตอนนี้เลย!

สำหรับผู้เล่นท้องถิ่น Thana City มี บัตรสมาชิกพิเศษ (Thana City Golf Card) ที่มอบส่วนลดอย่างคุ้มค่า ทำให้สนามแห่งนี้ยังคงเข้าถึงได้ง่ายสำหรับนักกอล์ฟไทย แม้ค่าบริการสำหรับนักท่องเที่ยวจะถูกมองว่าสูงก็ตาม

เมื่อเทียบกับสนามกอล์ฟระดับพรีเมียมอื่น ๆ รอบกรุงเทพฯ ราคาของ Thana City ถือว่าค่อนข้างแข่งขันได้ โดยมี คลับเฮาส์หรูหรา, ผลงานการออกแบบโดย Greg Norman, และ ทำเลใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ นักกอล์ฟส่วนใหญ่เห็นว่าค่าใช้จ่ายนี้เป็นการลงทุนเพื่อประสบการณ์ระดับพรีเมียมที่หาได้ยาก

โดยรวมแล้ว อัตรา Green Fee และแพ็กเกจของ Thana City Golf & Country Club มอบความ ยืดหยุ่น ตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการความสะดวกสบายครบวงจร และผู้เล่นท้องถิ่นที่ต้องการออกรอบเป็นประจำในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า

[ Follow our social media Account: GoGolf Instagram | GoGolf Facebook | GoGolf X ]