ต่อไปนี้คือข้อมูลจาก GoGolf เกี่ยวกับตารางระยะตีเฉลี่ยของไม้กอล์ฟแต่ละประเภท ทั้งสำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นชาย–หญิง และบางส่วนของนักกอล์ฟอาชีพ เพื่อให้คุณมีภาพรวมที่ชัดเจนก่อนเริ่มต้นออกรอบอย่างมั่นใจ
หมายเหตุ:
-
- นี่เป็นเพียงค่าเฉลี่ยเท่านั้น ระยะของผู้เล่นแต่ละคนจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเร็วของสวิง (clubhead speed), สภาพลูกกอล์ฟและสนาม, รวมถึงประเภทไม้กอล์ฟที่ใช้
- สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่น ระยะตีมักจะสั้นกว่านักกอล์ฟอาชีพ (Tour Pro)
ระยะเฉลี่ยของไม้กอล์ฟแต่ละชนิด (นักกอล์ฟสมัครเล่นชาย)
ประเภทไม้กอล์ฟ | Loft (±) | ระยะเฉลี่ย (เมตร) |
---|---|---|
ไม้ไดรเวอร์ (ไม้ 1) | 9–12° | 190 – 230 m |
ไม้ 3 | 15° | 175 – 210 m |
ไม้ 5 | 18° | 160 – 190 m |
ไฮบริด 3 | 19° | 160 – 185 m |
ไฮบริด 4 | 22° | 150 – 175 m |
เหล็ก 3 | 20° | 165 – 185 m |
เหล็ก 4 | 23° | 155 – 175 m |
เหล็ก 5 | 26° | 145 – 165 m |
เหล็ก 6 | 30° | 135 – 155 m |
เหล็ก 7 | 34° | 125 – 145 m |
เหล็ก 8 | 38° | 115 – 135 m |
เหล็ก 9 | 42° | 100 – 125 m |
พิตชิ่งเวดจ์ | 46° | 80 – 110 m |
แซนด์เวดจ์ | 54–56° | 60 – 90 m |
ล็อบเวดจ์ | 58–60° | 40 – 70 m |
ระยะเฉลี่ยของการตีด้วยไม้กอล์ฟ (นักกอล์ฟสมัครเล่นหญิง)
ประเภทไม้ | ระยะเฉลี่ย (เมตร) |
---|---|
ไดรเวอร์ (Driver) | 140 – 180 m |
ไม้ 3 (3-wood) | 125 – 160 m |
ไม้ 5 (5-wood) | 110 – 145 m |
เหล็ก 5 (5-iron) | 100 – 130 m |
เหล็ก 7 (7-iron) | 85 – 115 m |
เหล็ก 9 (9-iron) | 70 – 100 m |
พิชชิ่งเวดจ์ (Pitching Wedge) | 55 – 85 m |
แซนด์เวดจ์ (Sand Wedge) | 40 – 65 m |
จองสนามกอล์ฟง่ายและรวดเร็ว ผ่านแอปพลิเคชัน GoGolf — ดาวน์โหลดเลยตอนนี้!
การเปรียบเทียบกับนักกอล์ฟมืออาชีพ
ไม้กอล์ฟ | นักกอล์ฟชายอาชีพ (เมตร) | นักกอล์ฟหญิงอาชีพ (เมตร) |
---|---|---|
ไดรเวอร์ (Driver) | 260 – 300 m | 210 – 240 m |
เหล็ก 7 (7-iron) | 145 – 165 m | 110 – 135 m |
เหล็กพิชชิ่งเวดจ์ | 100 – 120 m | 80 – 95 m |
ประมาณการระยะตีของไม้กอล์ฟแต่ละประเภท ตั้งแต่ไดรเวอร์ถึงเวดจ์
ต่อไปนี้คือตารางระยะตีเฉลี่ยของไม้กอล์ฟแต่ละประเภท ตั้งแต่ไดรเวอร์จนถึงเวดจ์ (หน่วยเป็นเมตร) สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นชาย ซึ่งมักใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงทั่วไป
ตารางระยะตีเฉลี่ยของไม้กอล์ฟแต่ละประเภท (หน่วย: เมตร)
ประเภทไม้กอล์ฟ | องศาหน้าไม้ (Loft ±) | ระยะตีเฉลี่ย (เมตร) |
---|---|---|
ไดรเวอร์ (1-wood) | 9–12° | 190 – 230 m |
3-ไม้แฟร์เวย์ (3-wood) | 15° | 175 – 210 m |
5-ไม้แฟร์เวย์ (5-wood) | 18° | 160 – 190 m |
3-ไฮบริด (3-hybrid) | 19° | 160 – 185 m |
4-ไฮบริด (4-hybrid | 22° | 150 – 175 m |
3-เหล็ก (3-iron) | 20° | 165 – 185 m |
4-เหล็ก (4-iron) | 23° | 155 – 175 m |
5-เหล็ก (5-iron) | 26° | 145 – 165 m |
6-เหล็ก (6-iron) | 30° | 135 – 155 m |
7-เหล็ก (7-iron) | 34° | 125 – 145 m |
8-เหล็ก (8-iron) | 38° | 115 – 135 m |
9-เหล็ก (9-iron) | 42° | 100 – 125 m |
พิชชิ่งเวดจ์ (Pitching Wedge – PW) | 46° | 80 – 110 m |
แซนด์เวดจ์ (Sand Wedge – SW) | 54–56° | 60 – 90 m |
ล็อบเวดจ์ (Lob Wedge – LW) | 58–60° | 40 – 70 m |
หมายเหตุสำคัญ
- ระยะการตีของไม้กอล์ฟขึ้นอยู่กับพลังในการสวิง เทคนิคการตี ประเภทลูกกอล์ฟ และสภาพสนาม
- นักกอล์ฟสมัครเล่นเพศหญิง มักจะตีได้สั้นกว่าประมาณ 20–30%
- นักกอล์ฟระดับอาชีพสามารถตีได้ไกลกว่ามาก เช่น นักกอล์ฟ PGA Tour ตีไดรเวอร์เฉลี่ย 290–310 เมตร, 7-เหล็กเฉลี่ย 150–165 เมตร
เคล็ดลับการใช้ข้อมูลนี้อย่างมีประโยชน์
1. ใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นเท่านั้น ระยะจริงจะขึ้นอยู่กับความแรงในการสวิงของคุณเป็นหลัก
2. ควรเน้นการควบคุมระยะและความสม่ำเสมอมากกว่า เช่น ฝึกให้ตีด้วยไม้ 7-iron ได้ประมาณ 130 เมตร ± 5 เมตร อย่างแม่นยำ ดีกว่าตีได้ 145 เมตร หนเดียว แล้วครั้งถัดไปเหลือแค่ 115 เมตร
3. ทดสอบระยะของคุณเองที่ไดร์ฟวิ่งเรนจ์ นำไม้กอล์ฟของคุณไปทดลองตีและจดบันทึกระยะเฉลี่ยของแต่ละไม้จากการตีประมาณ 10–15 ครั้ง
[ Follow our social media Account: GoGolf Instagram | GoGolf Facebook | GoGolf X ]