ค่า Green Fee และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการเล่นกอล์ฟในประเทศสิงคโปร์อยู่ที่เท่าไหร่?

สิงคโปร์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางกอล์ฟที่หรูหราและมีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศนี้มีสนามกอล์ฟระดับนานาชาติจำนวนมาก ซึ่งไม่เพียงดึงดูดนักกอล์ฟชาวสิงคโปร์เท่านั้น แต่ยังเป็นแม่เหล็กสำหรับนักท่องเที่ยวและนักกอล์ฟมืออาชีพจากทั่วโลกอีกด้วย

ด้วยชื่อเสียงในฐานะเมืองทันสมัยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม จึงไม่น่าแปลกใจที่ ค่าใช้จ่ายในการเล่นกอล์ฟในสิงคโปร์จะสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน อย่างมาเลเซีย ไทย หรืออินโดนีเซีย

การเล่นกอล์ฟในสิงคโปร์ไม่ใช่เพียงกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็น สัญลักษณ์ของไลฟ์สไตล์และเครือข่ายทางสังคม อีกด้วย หลายบริษัทใหญ่ใช้สนามกอล์ฟเป็นสถานที่สำคัญสำหรับสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ จัดทัวร์นาเมนต์สุดพิเศษ หรือเสริมสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางการค้า ดังนั้น มาตรฐานของบริการ สิ่งอำนวยความสะดวก และคุณภาพสนามในสิงคโปร์จึงอยู่ในระดับสูงมาก — และแน่นอนว่าสอดคล้องกับต้นทุนที่นักกอล์ฟต้องจ่าย

ในปี 2025 ค่า Green Fee เฉลี่ยของสนามกอล์ฟในสิงคโปร์ ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างคงที่ แม้ว่าบางสโมสรจะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อของต้นทุนการดำเนินงาน

บทความนี้จาก GoGolf Indonesia จะอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับ ช่วงราคาเฉลี่ยของ Green Fee ในแต่ละสนาม, การเปรียบเทียบระหว่าง วันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์, รวมถึงแนวทางที่นักกอล์ฟต่างชาติสามารถใช้เพื่อ ประหยัดค่าใช้จ่ายหรือรับอัตราพิเศษ แบบเดียวกับสมาชิกท้องถิ่นได้

เพื่อช่วยให้ผู้อ่านสามารถวางแผนงบประมาณและเลือกสนามกอล์ฟที่เหมาะสมกับทั้งความชอบและศักยภาพทางการเงินของตนเองได้อย่างรอบคอบ นี่คือรายงานฉบับเต็มจาก GoGolf

ค่า Green Fee เฉลี่ยในสนามกอล์ฟสิงคโปร์ ปี 2025

ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการเล่นกอล์ฟในประเทศสิงคโปร์ในปี 2025 อยู่ในช่วงราคาที่ค่อนข้างกว้าง ขึ้นอยู่กับทำเล สิ่งอำนวยความสะดวก และระดับของสนาม สำหรับสนามสาธารณะ ราคาค่า Green Fee สำหรับ 18 หลุมในวันธรรมดา (weekday) อยู่ในช่วง SGD 60 ถึง SGD 150 หรือประมาณ Rp690.000 – Rp1.725.000
ขณะที่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ (weekend) และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ราคาสามารถเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า SGD 200 (Rp2.300.000) ต่อรอบ

สนามระดับพรีเมียมอย่าง Sentosa Golf Club ซึ่งมักจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนานาชาติ มอบประสบการณ์ระดับโลกพร้อมค่ากรีนฟีที่สูงถึง SGD 350 – SGD 500 (Rp4.000.000 – Rp5.750.000) สำหรับ 18 หลุม ราคามักจะสูงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ โดยเฉพาะเมื่อมีความต้องการมาก สนาม Sentosa ถือเป็นหนึ่งในสนามกอล์ฟที่หรูหราและเอ็กซ์คลูซีฟที่สุดในเอเชีย มีวิวทะเลที่สวยงามและการออกแบบสนามที่ท้าทายโดยสถาปนิกชื่อดัง

สำหรับผู้เล่นที่มองหาทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า Marina Bay Golf Course เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม สนามนี้มีราคาค่ากรีนฟีอยู่ที่ SGD 100 – SGD 200 (Rp1.150.000 – Rp2.300.000) สำหรับการเล่นในช่วงกลางวัน และ SGD 150 – SGD 250 (Rp1.725.000 – Rp2.875.000) สำหรับการเล่นกลางคืน (night golf) จุดเด่นของสนามคือมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการเล่นกลางคืน ซึ่งหาได้ยากในสิงคโปร์ ทำให้ผู้เล่นสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นกอล์ฟท่ามกลางบรรยากาศเมืองและวิวเส้นขอบฟ้าของ Marina Bay ที่สวยงาม

ในขณะเดียวกัน Orchid Country Club เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะกับนักกอล์ฟมือใหม่หรือระดับเริ่มต้น โดยมีราคาวันธรรมดาอยู่ที่ SGD 80 – SGD 150 (Rp920.000 – Rp1.725.000) และในวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่ที่ SGD 150 – SGD 250 (Rp1.725.000 – Rp2.875.000)

สนามอื่น ๆ เช่น Keppel Club และ Changi Golf Club ก็มีราคาที่แข่งขันได้เช่นกัน สำหรับการเล่น 18 หลุมพร้อมรถกอล์ฟ ราคาวันธรรมดาอยู่ที่ประมาณ SGD 90 – SGD 165 และอาจเพิ่มขึ้นถึง SGD 300 ในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยเฉพาะสำหรับชาวสิงคโปร์และผู้พำนักถาวร (PR) ส่วนผู้เล่นต่างชาติมักจะต้องจ่ายในอัตราที่สูงกว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสโมสรและระดับความต้องการของตลาด

นอกจากค่ากรีนฟีแล้ว ผู้เล่นยังควรคำนึงถึง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าเช่ารถกอล์ฟ (buggy) และค่าบริการคัดดี้ (caddie) ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ SGD 20 – SGD 40 ต่อรอบ แม้ไม่บังคับในทุกสนาม แต่บริการเหล่านี้มักจะแนะนำเพราะช่วยให้การเล่นสะดวกและราบรื่นมากขึ้น โดยเฉพาะในสนามที่มีพื้นที่กว้าง

ค้นหาสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดใกล้คุณ – ดาวน์โหลด GoGolf ได้เลย!

สรุปค่า Green Fee เฉลี่ยในสนามกอล์ฟประเทศสิงคโปร์

สนามกอล์ฟ ค่า Green Fee วันธรรมดา (SGD) ค่า Green Fee วันหยุดสุดสัปดาห์ (SGD) ช่วงราคาเป็นเงินรูเปียห์ วันธรรมดา (Rp) ช่วงราคาเป็นเงินรูเปียห์ วันหยุดสุดสัปดาห์ (Rp)
Sentosa Golf Club 350 – 500 สูงกว่า Rp4.000.000 – Rp5.750.000 มากกว่า Rp5.750.000
Marina Bay Golf Course 100 – 200 150 – 250 Rp1.150.000 – Rp2.300.000 Rp1.725.000 – Rp2.875.000
Orchid Country Club 80 – 150 150 – 250 Rp920.000 – Rp1.725.000 Rp1.725.000 – Rp2.875.000
Keppel Club & Changi Golf Club 90 – 165 สูงสุดถึง 300 Rp1.035.000 – Rp1.900.000 สูงสุดถึง Rp3.450.000

ข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่า การเล่นกอล์ฟในสิงคโปร์ถือเป็นกิจกรรมระดับพรีเมียม สิ่งอำนวยความสะดวกที่สนามกอล์ฟต่าง ๆ จัดเตรียมไว้นั้น สอดคล้องกับค่าบริการที่ผู้เล่นจ่าย ทำให้สิงคโปร์เป็นหนึ่งใน จุดหมายปลายทางกอล์ฟที่ดีที่สุดในเอเชีย สำหรับผู้ที่มองหาการผสมผสานระหว่าง ความท้าทายในการเล่นและความหรูหราของสิ่งอำนวยความสะดวก

การเปรียบเทียบค่า Green Fee สำหรับ 18 หลุม ระหว่างวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์

หนึ่งในสิ่งที่นักกอล์ฟควรสังเกตุก่อนทำการจองสนามคือความแตกต่างของอัตราค่าธรรมเนียมระหว่างวันทำงานและวันหยุดสุดสัปดาห์ การเปรียบเทียบนี้แสดงให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายในการเล่นกอล์ฟในสิงคโปร์สามารถเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสุดสัปดาห์ เนื่องจากความต้องการที่สูงและจำนวนช่วงเวลาเล่น (tee time) ที่มีจำกัด

สำหรับ พลเมืองสิงคโปร์ ค่าใช้จ่ายรวมรถกอล์ฟในวันธรรมดาอยู่ที่ประมาณ SGD 125,35 (Rp1.440.000) ในขณะที่ในวันหยุดสุดสัปดาห์จะเพิ่มขึ้นเป็น SGD 201,65 (Rp2.310.000) ความแตกต่างนี้แสดงถึงการเพิ่มขึ้นเกือบ 60% ระหว่างวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์

สำหรับ ผู้พำนักถาวร (Permanent Resident – PR) ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในวันธรรมดาอยู่ที่ SGD 146,06 (Rp1.680.000) และเพิ่มขึ้นเป็น SGD 224,54 (Rp2.580.000) ในวันหยุดสุดสัปดาห์ กลุ่ม PR มักได้รับอัตราค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าผู้มาเยือนต่างชาติ แต่ยังคงสูงกว่าพลเมืองสิงคโปร์เล็กน้อย

สำหรับ ผู้มาเยือนต่างชาติ (Visitor) ค่าใช้จ่ายในวันธรรมดาอยู่ที่ประมาณ SGD 199,47 (Rp2.290.000) และเพิ่มขึ้นเป็น SGD 341,17 (Rp3.920.000) ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ความแตกต่างนี้สูงถึง 70% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเล่นกอล์ฟในวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับนักท่องเที่ยวในสิงคโปร์ถือเป็นความหรูหราอย่างแท้จริง

โดยทั่วไป ค่า Green Fee สำหรับ 18 หลุมในวันธรรมดา อยู่ที่ประมาณ SGD 90 – 110 ขณะที่ในวันหยุดสุดสัปดาห์สามารถสูงถึง SGD 166 – 190 ขึ้นอยู่กับสนาม ความแตกต่างของราคาที่เพิ่มขึ้นนี้ถือเป็นเรื่องปกติในประเทศที่มีความต้องการสูงต่อกิจกรรมพักผ่อนระดับพรีเมียมอย่างกอล์ฟ

สรุปการเปรียบเทียบระหว่างวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์

ประเภทผู้เล่น รวมวันธรรมดา (SGD) รวมวันหยุดสุดสัปดาห์ (SGD) ช่วงราคา วันธรรมดา (Rp) ช่วงราคา วันหยุดสุดสัปดาห์ (Rp)
ชาวสิงคโปร์ 125,35 201,65 Rp1.440.000 Rp2.310.000
ผู้พำนักถาวร (Permanent Resident) 146,06 224,54 Rp1.680.000 Rp2.580.000
นักท่องเที่ยวต่างชาติ (Visitor) 199,47 341,17 Rp2.290.000 Rp3.920.000

ความแตกต่างของราคาที่ค่อนข้างมากนี้เกิดจากหลายปัจจัย ปัจจัยแรก คือจำนวนผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ในขณะที่จำนวนช่วงเวลาเล่น (tee time) มีจำกัด ปัจจัยที่สอง คือสนามกอล์ฟบางแห่งมีนโยบายให้สิทธิ์ สมาชิกของสโมสร เล่นก่อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้ผู้เล่นทั่วไปต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

ดังนั้น สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการเล่นในราคาที่ คุ้มค่ากว่า ควรเลือกเล่นในช่วง วันธรรมดา โดยเฉพาะในช่วง เช้าหรือกลางวัน นอกจากจะได้ราคาที่ถูกกว่าแล้ว บรรยากาศในสนามยัง สงบและไม่แออัด ทำให้เพลิดเพลินกับการเล่นได้อย่างเต็มที่มากขึ้น

วิธีการรับส่วนลดหรืออัตราท้องถิ่นสำหรับผู้เล่นต่างชาติ

แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการเล่นกอล์ฟในสิงคโปร์จะค่อนข้างสูง แต่ผู้เล่นต่างชาติยังมีโอกาสที่จะได้รับอัตราที่ถูกกว่าด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสม มีหลายวิธีในการเข้าถึงราคาพิเศษหรือส่วนลด ตั้งแต่การเป็นสมาชิก การใช้ประโยชน์จากโปรโมชั่นบัตรเครดิต ไปจนถึงการเข้าร่วมกับชุมชนกอล์ฟในท้องถิ่น

1. การเป็นสมาชิกของสโมสรกอล์ฟหรือเข้าร่วมโปรแกรมสมาชิก

บางสโมสรกอล์ฟในสิงคโปร์เปิดการเป็นสมาชิกระยะสั้น (short-term membership) ที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้เล่นต่างชาติ ข้อดีของการเป็นสมาชิก ได้แก่ ส่วนลดค่า green fee, การเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษ และส่วนลดสำหรับบริการเพิ่มเติม เช่น buggy และ caddie นอกจากนี้ สมาชิกมักจะได้รับสิทธิ์จอง tee time ก่อน โดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์

 2. การใช้บัตรเครดิตหรือโปรแกรมส่วนลดจากพันธมิตร

บางธนาคารและสถาบันการเงิน เช่น Maybank Visa Infinite หรือ HSBC Premier Mastercard ร่วมมือกับสโมสรกอล์ฟชื่อดังในเอเชียเพื่อมอบสิทธิ์เล่นฟรี (complimentary green fee) หรือส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรบางประเภท นอกจากนี้ แพลตฟอร์มจองอย่าง GoGolf App ยังมักจะเสนอโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ใช้ที่จอง tee time ผ่านแอปของพวกเขา

3. การเล่นในวันธรรมดาหรือช่วงเวลานอกพีค (Off-Peak)

กุญแจสำคัญในการประหยัดค่าใช้จ่ายคือการเลือกเวลาเล่นที่ไม่แออัด สนามส่วนใหญ่จะมีราคาถูกกว่าในวันธรรมดาและช่วงเวลาบางช่วง เช่น ตอนเช้า หรือหลังเวลา 14.00 น. นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว การเล่นในช่วงเวลานี้ยังทำให้ได้ประสบการณ์ที่ผ่อนคลายมากขึ้นโดยไม่มีคิวรอนาน

4. การใช้ประโยชน์จากแพ็กเกจโปรโมชั่นและส่วนลดตามฤดูกาล

หลายสโมสรจะมีโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเทศกาล เช่น วันชาติ ปีใหม่ หรือกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬานานาชาติ ส่วนลดอาจมากถึง 30–50% สำหรับระยะเวลาจำกัด รวมถึงแพ็กเกจ stay & play สำหรับนักท่องเที่ยว

5. การเข้าร่วมกับชุมชนหรือกลุ่มกอล์ฟท้องถิ่น

ชุมชนกอล์ฟในสิงคโปร์ค่อนข้างมีความเคลื่อนไหว และมักจะได้รับสิทธิ์เข้าถึงราคาพิเศษเมื่อเล่นเป็นกลุ่มใหญ่ ผ่านชุมชนเหล่านี้ ผู้เล่นต่างชาติยังอาจได้รับคำเชิญให้ใช้สิทธิ์ในอัตราสมาชิกโดยไม่ต้องสมัครอย่างเป็นทางการ

6. การสอบถามอัตราสำหรับชาวต่างชาติที่พำนักอยู่หรือมีใบอนุญาตระยะยาว

บางสโมสรกอล์ฟมีอัตราพิเศษสำหรับ expatriate หรือผู้ถือใบอนุญาตพำนักระยะยาว (PR/KITAS) หากคุณอาศัยอยู่ในสิงคโปร์เป็นระยะเวลาหนึ่ง อย่าลังเลที่จะสอบถามหมวดราคาพิเศษนี้กับฝ่ายจองของสโมสร

ด้วยการผสมผสานวิธีการข้างต้น ผู้เล่นต่างชาติสามารถได้รับอัตราที่แข่งขันได้มากขึ้นและเพลิดเพลินกับประสบการณ์การเล่นที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน

สรุป

โดยรวมแล้ว การเล่นกอล์ฟในสิงคโปร์ในปี 2025 สามารถจัดว่าเป็นกิจกรรมระดับพรีเมียมที่มอบคุณภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยค่า green fee ที่อยู่ระหว่าง SGD 60 จนถึงมากกว่า SGD 500 สิงคโปร์ไม่ใช่จุดหมายสำหรับผู้ที่มองหาราคาถูก แต่เป็นสำหรับผู้ที่ให้คุณค่ากับคุณภาพ การบริการ และประสบการณ์การเล่นระดับโลก

การเปรียบเทียบระหว่างวันธรรมดาและวันหยุดสุดสัปดาห์ยังแสดงให้เห็นว่าการวางแผนเวลาเล่นมีผลอย่างมากต่อค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผู้เล่นสามารถประหยัดได้ถึง 60–70% ด้วยการเล่นในวันธรรมดาหรือช่วงเวลานอกพีค (off-peak) นอกจากนี้ กลยุทธ์ต่าง ๆ เช่น การเป็นสมาชิกสโมสร การใช้บัตรเครดิตที่ร่วมกับสโมสรกอล์ฟ หรือการเข้าร่วมกับชุมชนกอล์ฟในท้องถิ่น สามารถเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพลิดเพลินกับประสบการณ์การเล่นกอล์ฟในราคาที่ถูกลง

สำหรับนักท่องเที่ยว สิงคโปร์ยังคงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางกอล์ฟที่น่าสนใจที่สุดในเอเชีย ตั้งแต่สนามเก่าแก่เช่น Keppel Club ไปจนถึงสนามสมัยใหม่เช่น Marina Bay Golf Course และ Sentosa Golf Club ทุกสนามต่างนำเสนอการผสมผสานระหว่างทัศนียภาพแบบเขตร้อน การออกแบบสนามที่ท้าทาย และการบริการระดับมืออาชีพของโลก

ด้วยการเตรียมตัวที่เหมาะสมและการจองที่รอบคอบ นักกอล์ฟสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์การเล่นกอล์ฟที่ดีที่สุดในสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย

[ Follow our social media Account: GoGolf Instagram | GoGolf Facebook | GoGolf X ]