รีวิว The ELS Club Desaru Coast: สวรรค์แห่งกอล์ฟในรีสอร์ทระดับนานาชาติ

The ELS Club Desaru Coast เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางกอล์ฟที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ผสมผสานความสมบูรณ์แบบระหว่างสนามกอล์ฟระดับเวิลด์คลาส ทัศนียภาพอันสวยงาม และสิ่งอำนวยความสะดวกของรีสอร์ทมาตรฐานนานาชาติ

Valley Course มอบความท้าทายเชิงเทคนิคด้วยผืนแฟร์เวย์ที่มีความลาดเอียงและลูกคลื่นอย่างน่าตื่นเต้น ส่วน Ocean Course จะพาผู้เล่นดื่มด่ำไปกับวิวทะเลจีนใต้และแฟร์เวย์ที่กว้างขวางชวนหลงใหล

ภายในพื้นที่ยังมีโรงแรมระดับห้าดาว ศูนย์ความบันเทิง และสวนน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ที่นี่กลายเป็น “จุดหมายปลายทางวันหยุดครบวงจร” (one-stop holiday destination) อย่างแท้จริง เสียงรีวิวเชิงบวกจากนักกอล์ฟและนักท่องเที่ยวต่างยืนยันว่า ประสบการณ์ที่นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องของการตีกอล์ฟ แต่คือการสัมผัส “ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม”

ด้วยค่า Green Fee เริ่มต้นที่ 415–465 ริงกิตมาเลเซีย (MYR) The ELS Club Desaru Coast อาจอยู่ในระดับพรีเมียม แต่ก็คุ้มค่าสมกับคุณภาพและความประทับใจที่ได้รับ สำหรับนักกอล์ฟที่กำลังมองหาประสบการณ์สุดพิเศษในเอเชีย ที่นี่คือหนึ่งในจุดหมายที่ควรค่าแก่การเยือนอย่างยิ่ง และนี่คือรีวิวฉบับเต็มจาก GoGolf

ภาพรวมของ The ELS Club Desaru Coast

The ELS Club Desaru Coast เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางกอล์ฟที่หรูหราและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศมาเลเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในเขตท่องเที่ยวระดับโลกแบบครบวงจร ตัวสนามตั้งอยู่ที่รัฐยะโฮร์ ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาทีจากสิงคโปร์ และมอบประสบการณ์การเล่นกอล์ฟในบรรยากาศรีสอร์ทสุดหรูริมทะเลจีนใต้ ที่ผู้เล่นจะได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพงดงามตลอดการออกรอบ

ด้วยพื้นที่กว่า 1,578 เฮกตาร์ และแนวชายฝั่งยาวถึง 17 กิโลเมตร โครงการนี้ถูกพัฒนาให้เป็น แหล่งท่องเที่ยวครบวงจร โดยมี The ELS Club เป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญที่ผสมผสานระหว่างกีฬา ความบันเทิง และกิจกรรมพักผ่อนสำหรับครอบครัว แตกต่างจากสนามกอล์ฟทั่วไป เพราะที่นี่ออกแบบภายใต้แนวคิด “Resort Golf Lifestyle” ที่ตอบโจทย์ทั้งนักกอล์ฟและนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์วันหยุดระดับพรีเมียม

สนามกอล์ฟประกอบด้วยสองดีไซน์หลัก ได้แก่ Ocean Course ออกแบบโดยตำนานนักกอล์ฟระดับโลก Ernie Els Valley Course ผลงานของแชมป์โลก 3 สมัย Vijay Singh

การผสมผสานของสองดีไซเนอร์ชั้นนำทำให้ The ELS Club Desaru Coast กลายเป็นหนึ่งในสนามที่โดดเด่นที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเอกลักษณ์ของวิวทะเลที่งดงามควบคู่กับความท้าทายเชิงเทคนิคของสนามแข่งขันระดับมืออาชีพ

นับตั้งแต่เปิดให้บริการ สนามแห่งนี้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากทั้งนักกอล์ฟในประเทศและต่างชาติ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับห้าดาว บริการที่เป็นมืออาชีพ และบรรยากาศรีสอร์ทสุดเอ็กซ์คลูซีฟ จึงไม่น่าแปลกใจที่ The ELS Club Desaru Coast จะได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวรรค์แห่งกอล์ฟแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

ค้นหาสนามกอล์ฟที่ดีที่สุดใกล้คุณ – ดาวน์โหลด GoGolf ได้เลย!

Valley Course: ความท้าทายอันดราม่าท่ามกลางหุบเขา

Valley Course แห่ง The ELS Club Desaru Coast ออกแบบโดย Vijay Singh นักกอล์ฟมืออาชีพระดับโลกและแชมป์เมเจอร์ 3 สมัย เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2016 สนามมีระยะประมาณ 7,200 หลา และโดดเด่นด้วยการจัดวางที่มีมิติและน่าตื่นตา สมชื่อ “Valley” เพราะเต็มไปด้วยหุบเขา เนินลูกคลื่น และลำธารเล็ก ๆ ที่คดเคี้ยวผ่านแฟร์เวย์ สร้างบรรยากาศการเล่นที่ทั้งท้าทายและงดงาม

หนึ่งในเอกลักษณ์ของ Valley Course คือ กรีนแคบและมีคอนทัวร์คมชัด ทำให้ “ความแม่นยำ” คือหัวใจสำคัญของเกม นักกอล์ฟไม่สามารถพึ่งเพียงพลังของวงสวิงได้ แต่ต้องอาศัยกลยุทธ์และการตัดสินใจในทุกช็อต การออกแบบของ Singh ยึดแนวคิด “risk-reward” — ผู้เล่นที่กล้าเสี่ยงจะมีโอกาสได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่า

นอกจากนี้ ความสูงต่ำของพื้นสนาม (elevation) ยังช่วยเพิ่มทั้งความสวยงามและระดับความยาก บางหลุมต้องตีจากแท่นทีที่อยู่สูงลงสู่แฟร์เวย์ต่ำ และบางหลุมกลับกัน ทำให้ผู้เล่นต้องปรับการตีอยู่เสมอ ลองจินตนาการถึงการสวิงท่ามกลางทิวเขาเขียวขจี และสายน้ำที่สะท้อนแสงอาทิตย์ — ความรู้สึกนี้หาได้ยากจากสนามอื่น

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สำหรับนักกอล์ฟทุกระดับ ได้แก่ รถกอล์ฟ (golf cart) ที่สามารถใช้ได้บนแฟร์เวย์ Driving Range และพื้นที่ซ้อมพัตต์–ชิป (Putting & Chipping Area) ที่จำลองสภาพจริงของสนาม Pro Shop, ห้องล็อกเกอร์ และร้านอาหารตกแต่งสไตล์หุบเขา พร้อมเสิร์ฟทั้งอาหารท้องถิ่นและนานาชาติ

Valley Course เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักกอล์ฟระดับกลางถึงมืออาชีพที่มองหาความท้าทายเชิงกลยุทธ์ ส่วนมือใหม่ แม้อาจรู้สึกว่ายากในตอนแรก แต่ก็จะได้เรียนรู้ทักษะด้านความแม่นยำและการควบคุมลูกอย่างล้ำค่า

ด้วยการผสมผสานระหว่าง ความท้าทายทางเทคนิคและทิวทัศน์ธรรมชาติที่ตระการตา Valley Course จึงกลายเป็นหนึ่งใน ไฮไลต์สำคัญของ The ELS Club Desaru Coast อย่างแท้จริง

Ocean Course: ความงดงามแห่งท้องทะเลและแฟร์เวย์กว้างใหญ่

หาก Valley Course มอบความท้าทายด้วยคอนทัวร์ของหุบเขาแล้ว Ocean Course ก็จะนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่าง ด้วยทัศนียภาพของทะเลจีนใต้ สนามนี้ออกแบบโดยตำนานกอล์ฟระดับโลก Ernie Els และแบ่งออกเป็นสามเซตหลัก รวมทั้งหมด 27 หลุม ได้แก่ The Lakes (พาร์ 36) The Coast (พาร์ 36) The Ridge (พาร์ 37)

Ocean Course โดดเด่นด้วยวิวทะเลอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งบางหลุมดูราวกับเชื่อมต่อกับแนวชายฝั่งโดยตรง ลองจินตนาการถึงการตีลูกกอล์ฟโดยมีเสียงคลื่นและสายลมทะเลเป็นฉากหลัง — ความรู้สึกนี้ทำให้ทุกการตีรู้สึกพิเศษยิ่งขึ้น การออกแบบของสนามได้รับแรงบันดาลใจจากสนามกอล์ฟคลาสสิกในประเทศอังกฤษ ด้วยแฟร์เวย์ที่กว้าง กรีนขนาดใหญ่ และบังเกอร์ที่จัดวางอย่างมีกลยุทธ์

หนึ่งในจุดเด่นของ Ocean Course คือ ความหลากหลายของแท่นตี (tee box) ในแต่ละหลุม ซึ่งเปิดโอกาสให้นักกอล์ฟทุกระดับสามารถปรับระดับความยากง่ายของเกมได้ตามต้องการ ผู้เริ่มต้นสามารถเลือกแท่นตีระยะสั้นเพื่อลดแรงกดดัน ส่วนผู้เล่นที่มีประสบการณ์สามารถเลือกแท่น Championship Tee เพื่อความท้าทายสูงสุด

แม้ว่าแฟร์เวย์ของ Ocean Course จะกว้างกว่า Valley Course แต่ไม่ได้หมายความว่าสนามนี้ง่ายกว่า เพราะ กรีนขนาดใหญ่ที่มีคอนทัวร์เรียบละเอียด กลับกลายเป็นบททดสอบของการอ่านไลน์พัตต์อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ การมีอยู่ของ ทะเลสาบเทียม ยังเพิ่มมิติด้านกลยุทธ์ให้ผู้เล่นต้องคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจว่าจะเสี่ยงหรือจะเล่นแบบปลอดภัย

สิ่งอำนวยความสะดวกของสนาม Ocean Course ก็หรูหราไม่แพ้กัน รถกอล์ฟทุกคันติดตั้งระบบ GPS เพื่อช่วยในการนำทางและคำนวณระยะ แม้จะไม่มีบริการแคดดี้ แต่ผู้เล่นยังสามารถเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้องล็อกเกอร์ ร้าน Pro Shop และสนามซ้อม Driving Range

โดยรวมแล้ว Ocean Course คือทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสการผสมผสานระหว่าง ความงามของท้องทะเล การออกแบบสนามที่ท้าทาย และความสะดวกสบายของสิ่งอำนวยความสะดวกสมัยใหม่ ไม่แปลกที่นักกอล์ฟนานาชาติหลายคนยกให้ Ocean Course เป็นหนึ่งใน สนามกอล์ฟที่น่าตื่นตาที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สิ่งอำนวยความสะดวกของรีสอร์ทและความบันเทิงครบครัน

The ELS Club Desaru Coast ไม่ได้มีดีแค่คุณภาพของสนามกอล์ฟเท่านั้น แต่ยังมอบ สิ่งอำนวยความสะดวกระดับรีสอร์ทนานาชาติ ที่ทำให้ประสบการณ์วันหยุดสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง ภายในพื้นที่เดียวกันนี้มีโรงแรมหรูที่เชื่อมต่อโดยตรงถึง 3 แห่ง ได้แก่

• The Westin Desaru Coast
• Anantara Desaru Coast & Villas
• Hard Rock Hotel Desaru Coast

โรงแรมทั้งสามแห่งให้บริการในมาตรฐานระดับห้าดาว พร้อมห้องพักสุดหรูที่มองเห็นวิวทะเล และบริการสปาระดับโลก การมีอยู่ของรีสอร์ทเหล่านี้ทำให้ Desaru Coast กลายเป็นจุดหมายปลายทางวันหยุดครบวงจร (One-stop Holiday Destination) เหมาะสำหรับทั้งครอบครัวและนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์กอล์ฟควบคู่กับการพักผ่อนในบรรยากาศทะเลแบบทรอปิคอล

นอกจากที่พักแล้ว ยังมีโซนความบันเทิงอย่าง Desaru Coast Riverside ที่รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้าปลีก และสถานบันเทิงยามค่ำคืน นักท่องเที่ยวสามารถผ่อนคลายหลังการออกรอบ พร้อมลิ้มลองอาหารท้องถิ่นและนานาชาติในบรรยากาศสุดชิล

อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือ Desaru Coast Adventure Waterpark สวนน้ำขนาดใหญ่ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก รองรับนักท่องเที่ยวได้มากถึง 12,000 คน เพิ่มความสนุกให้กับทุกวัย และทำให้ Desaru Coast เป็นจุดหมายที่เหมาะกับครอบครัวอย่างแท้จริง

ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเช่นนี้ The ELS Club Desaru Coast จึงไม่ได้เป็นเพียงสนามกอล์ฟ แต่คือ รีสอร์ทนานาชาติที่ผสานกีฬา ความบันเทิง และไลฟ์สไตล์เข้าไว้ในพื้นที่เดียวกันอย่างลงตัว

รีวิวจากผู้เข้าพักและชื่อเสียงในระดับนานาชาติ

โดยภาพรวมแล้ว รีวิวของผู้ที่มาเยือน The ELS Club Desaru Coast ถือว่าอยู่ในระดับยอดเยี่ยม โดยได้รับคะแนนเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.9 – 5 จาก 5 คะแนน บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Tripadvisor และ Google Reviews ผู้เล่นหลายคนกล่าวว่า ประสบการณ์ที่นี่คือการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง ความท้าทายทางเทคนิคและความงดงามของธรรมชาติ

จุดเด่นที่ได้รับคำชม:

• Valley Course ได้รับการยกย่องว่า “ท้าทายแต่สนุก” ด้วยกรีนที่แคบและคอนทัวร์ลูกคลื่น ทำให้การเล่นเต็มไปด้วยสีสัน
• Ocean Course ถูกกล่าวถึงว่า “ตระการตา” ด้วยวิวทะเลและแฟร์เวย์กว้าง แม้จะท้าทายแต่ผู้เล่นจำนวนมากประทับใจในดีไซน์ของสนาม
• สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น Driving Range, Pro Shop และร้านอาหาร ได้รับคำชื่นชมในเรื่องคุณภาพระดับสูง
• พนักงานและบริการ ถูกมองว่าเป็นมิตร มืออาชีพ และให้บริการในระดับพรีเมียม สมกับมาตรฐานของสนามระดับนานาชาติ

ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุง:

• บางรีวิวระบุว่ามี ความเสียหายเล็กน้อยบริเวณแฟร์เวย์ จากหมูป่า แม้จะไม่กระทบต่อประสบการณ์โดยรวม
• ร้านอาหาร ได้รับความคิดเห็นที่หลากหลาย โดยบางส่วนกล่าวถึง เวลารออาหารที่นาน และ คุณภาพของบางเมนูที่ยังไม่สม่ำเสมอ
• ค่า Green Fee ถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสนามอื่นในมาเลเซีย แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่เห็นว่าราคานั้น คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณภาพและบริการที่ได้รับ

โดยสรุป The ELS Club Desaru Coast ได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งใน สนามกอล์ฟที่ต้องไปเยือนให้ได้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจุดเด่นด้านการออกแบบที่ลงตัว วิวทะเลที่งดงาม และบรรยากาศรีสอร์ทสุดหรูที่มอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับนักกอล์ฟทุกคน

อัตราค่ากรีนฟี (Green Fee Rates)

The ELS Club Desaru Coast มีอัตราค่ากรีนฟีดังนี้:

• วันธรรมดา (Weekday): 415 ริงกิตมาเลเซีย (MYR) ต่อท่าน สำหรับ 18 หลุม
• วันหยุดสุดสัปดาห์ (Weekend): 465 ริงกิตมาเลเซีย (MYR) ต่อท่าน สำหรับ 18 หลุม

ราคานี้รวมแล้ว:

• ภาษีการขายและบริการ (SST) 8%
• ค่ากรีนฟี (Green Fee)
• รถกอล์ฟ (Golf Cart) แบบแชร์
• การใช้ห้องล็อกเกอร์
• ประกันภัยสำหรับนักกอล์ฟ

หมายเหตุ:

• อัตราค่ากรีนฟีเหมือนกันทั้งสองสนามหลัก คือ Ocean Course และ Valley Course ไม่มีการแยกเรตราคา
• มี ส่วนลดพิเศษ สำหรับการจองเวลาออกรอบ (Tee Time) ล่วงหน้าอย่างน้อย 48 ชั่วโมง

ทั้งนี้ Ridge Nine Course ปิดให้บริการชั่วคราวตั้งแต่เดือนเมษายน 2025 เป็นเวลา 10 เดือน เพื่อดำเนินโครงการ ปรับพื้นหญ้าใหม่ (Re-grassing Project) ทำให้ช่วงนี้การออกรอบจะมุ่งเน้นไปที่ Ocean และ Valley Course เป็นหลัก

ด้วยอัตราค่ากรีนฟีในระดับพรีเมียม The ELS Club Desaru Coast ยังคงได้รับการยอมรับว่าคุ้มค่ากับคุณภาพของสนาม สิ่งอำนวยความสะดวกระดับนานาชาติ และบริการอย่างมืออาชีพ สำหรับนักกอล์ฟที่มองหาประสบการณ์อันโดดเด่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ราคานี้ถือเป็น การลงทุนเพื่อสัมผัสประสบการณ์กอล์ฟระดับโลกอย่างแท้จริง