Titleist Vokey SM7 คือวิวัฒนาการตามธรรมชาติของหนึ่งในเวดจ์ที่ดีที่สุดตลอดกาล พัฒนาต่อยอดจากพื้นฐานของรุ่น SM6, SM7 มอบการปรับปรุงที่โดดเด่นในด้าน การควบคุมระยะทาง (distance control), การสร้างสปิน (spin) และ ความรู้สึกขณะตี (feel)
ด้วยเทคโนโลยีอย่าง Progressive CG (จุดศูนย์ถ่วงแบบไล่ระดับ) และ Spin Milled Groove (ร่องหน้าไม้แบบมิลล์ละเอียด) ทำให้ทุกการตีลูกมีความสม่ำเสมอ แม่นยำ และพร้อมรับมือกับทุกสภาพสนาม
นอกจากนี้ SM7 ยังมาพร้อมกับ ตัวเลือก grind และ loft ที่หลากหลาย, การตกแต่งผิว (finishing) ที่สวยงามโดดเด่น, และการรับรองจากนักกอล์ฟอาชีพทั่วโล ทั้งหมดนี้ทำให้ Vokey SM7 สมควรอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งของชุดอุปกรณ์กอล์ฟของคุณ
ไม่ว่าคุณจะเป็น นักกอล์ฟสมัครเล่นที่ต้องการยกระดับเกมลูกสั้น หรือ มืออาชีพที่ต้องการความแม่นยำสูงสุด, SM7 คือเวดจ์ระดับโลกที่ตอบโจทย์ทุกจังหวะการตีได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต่อไปคือรีวิวฉบับเต็มจาก GoGolf
การปฏิวัติครั้งใหม่จากเวดจ์ระดับตำนาน
ในโลกของกอล์ฟ การเลือกเวดจ์ไม่ใช่เรื่องง่าย นักกอล์ฟมืออาชีพจำนวนมากมักลังเลที่จะเปลี่ยนเวดจ์คู่ใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขารู้สึกคุ้นเคยและสบายใจกับเวดจ์เดิมที่ใช้มาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวของ Titleist Vokey SM7 สามารถเปลี่ยนความเคยชินนั้นได้
เวดจ์รุ่นนี้เป็นทายาทต่อจากซีรีส์ Vokey SM6 ที่ครองตลาดมาอย่างยาวนาน มาพร้อมกับการพัฒนาทั้งในด้านเทคนิคและความสวยงาม SM7 ถูกกล่าวขานว่าให้ ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ทั้งในด้าน การควบคุมสปิน (spin control), ระยะการตี (distance control) และ ความรู้สึกขณะใช้งาน (feel)
บทความจาก GoGolf ฉบับนี้จะรีวิวอย่างละเอียดถึง จุดเด่นทางเทคโนโลยี, การออกแบบ, ตัวเลือกของ sole, ไปจนถึง ความประทับใจของนักกอล์ฟมืออาชีพ ที่มีต่อเวดจ์เรือธงรุ่นนี้จาก Titleist
Vokey SM7 — ผู้สืบทอดที่คู่ควรต่อความยอดเยี่ยมของซีรีส์ SM6
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ Vokey SM6 เคยสร้างไว้นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะถูกแซงได้ง่าย ๆ
เวดจ์รุ่นนั้นได้รับความนิยมอย่างมากเพราะสามารถมอบทั้ง สปินสูงสุด, การควบคุมที่ยอดเยี่ยม, และ ระยะการตีที่ทรงพลัง ด้วยพื้นฐานอันแข็งแกร่งนี้ Titleist จึงพัฒนา Vokey SM7 ขึ้นมาในฐานะผู้สืบทอดที่ มีความล้ำหน้าและแข่งขันได้มากกว่าเดิม
Bob Vokey ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบเวดจ์ระดับตำนานของ Titleist ได้นำพื้นฐานจากรุ่น SM6 มาต่อยอดเพื่อสร้าง SM7 ด้วยแนวทางทางเทคนิคที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
หนึ่งในจุดสำคัญของการพัฒนาคือ การปรับตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วง (CG) แบบไล่ระดับ หรือ Progressive Center of Gravity ซึ่งไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนรูปลักษณ์เท่านั้น แต่เป็น การปรับปรุงทางฟังก์ชัน ที่พิสูจน์แล้วว่ามีผลชัดเจนต่อ ประสิทธิภาพการตีลูก
นอกจากด้านเทคนิคแล้ว ดีไซน์ของ SM7 ยังได้รับการออกแบบให้ดูหรูหราและทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วย การเคลือบผิว (finishing) แบบพรีเมียมและรูปลักษณ์ที่โดดเด่น
นักกอล์ฟที่เคยใช้ SM6 มาเป็นเวลานานจึงไม่จำเป็นต้องลังเลที่จะเปลี่ยนมาใช้ SM7 เพราะจุดเด่นทั้งหมดของรุ่นก่อนหน้ายังคงอยู่ครบ — และยังได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
นวัตกรรมทางเทคโนโลยี: Progressive Center of Gravity
หนึ่งในนวัตกรรมสำคัญที่สุดของ Vokey SM7 คือการใช้ เทคโนโลยี Progressive Center of Gravity (CG) เทคโนโลยีนี้มีจุดประสงค์เพื่อ ปรับตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงของเวดจ์ให้สอดคล้องกับจุดปะทะที่เหมาะสม (impact point) ตามองศาหน้าไม้ (loft) ของแต่ละรุ่น ผลลัพธ์ที่ได้คือ วิถีลูก (trajectory) ที่มีความสม่ำเสมอมากขึ้นและสามารถคาดเดาได้อย่างแม่นยำ
สำหรับเวดจ์ที่มี องศาหน้าไม้ต่ำ (เช่น 46°–52°) จุดศูนย์ถ่วงจะถูกออกแบบให้ อยู่ต่ำกว่า เพื่อช่วยให้ ควบคุมระยะทางได้อย่างแม่นยำ
ในขณะที่เวดจ์ที่มี องศาหน้าไม้สูง (56° ขึ้นไป) จุดศูนย์ถ่วงจะถูก ยกให้สูงขึ้น เพื่อช่วยสร้าง สปินสูงสุด (maximum spin) โดยเฉพาะในการตีลูกสั้นรอบกรีน
ตำแหน่งของจุด CG นี้ถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยี CAD (Computer-Aided Design) ที่มีความละเอียดสูง และสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนบริเวณ ด้านหลังของหัวเวดจ์ (back cavity)
ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดจากเทคโนโลยีนี้คือ ความสามารถในการควบคุมที่ดีขึ้นอย่างมาก โดยไม่สูญเสียความรู้สึก (feel) หรือความสบายในการใช้งาน นักกอล์ฟจะรู้สึกได้ถึง การตีที่นุ่มนวลและแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมกับสามารถ ควบคุมทิศทางและระยะทางของลูกได้อย่างมั่นใจ
เทคโนโลยี Spin Milled: สปินสูงสุดในทุกจังหวะการตี
มาอย่างยาวนานแล้วที่ Titleist เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีการตัดร่องหน้าไม้ (groove cutting) สำหรับเวดจ์ และในรุ่น SM7 เทคโนโลยี Spin Milled ยังคงเป็นหนึ่งในฟีเจอร์หลักที่โดดเด่นที่สุด
เทคโนโลยีนี้ใช้ กระบวนการตัดด้วยความแม่นยำสูง (precision milling) เพื่อสร้างร่องหน้าไม้ (groove) ที่มีความ คม ลึก และควบคุมได้อย่างละเอียด
กระบวนการตัดร่องนี้ถูกทำขึ้น เฉพาะสำหรับแต่ละองศา (loft) และมุมกระดอน (bounce) เพื่อให้ร่องหน้าไม้ถูกออกแบบอย่างเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละรูปแบบ ตัวอย่างเช่น ในเวดจ์ที่มี องศาสูง จะมีร่องที่ คมกว่าและลึกกว่า เพื่อสร้างเอฟเฟกต์แบ็กสปิน (backspin) สูงสุดเมื่อลูกบอลตกลงบนกรีน
นอกจากนี้ เวดจ์ SM7 ทุกชิ้น ยังผ่านกระบวนการ heat treatment (การอบความร้อน) เพื่อทำให้ร่องหน้าไม้มีความ ทนทานต่อการสึกหรอ และไม่ทื่อตัวเร็ว
ผลลัพธ์คืออายุการใช้งานของเวดจ์ ยาวนานกว่ารุ่นทั่วไปอย่างชัดเจน
ด้วยสปินที่แรงขึ้นและสม่ำเสมอมากกว่าเดิม นักกอล์ฟจะสามารถ ควบคุมลูกบอลได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นลูกสั้นรอบกรีน (short game), การชิพเข้าหาหลุม (chip-in), หรือแม้แต่ การตีเต็มวงจากแฟร์เวย์หรือในบังเกอร์ — SM7 ก็พร้อมมอบความมั่นใจในทุกช็อตอย่างแท้จริง
รุ่นของ Sole และตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลาย
Titleist Vokey SM7 ไม่ได้โดดเด่นเพียงแค่ด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเหนือชั้นในเรื่อง ความยืดหยุ่นและการปรับแต่ง (customization) ด้วย เวดจ์รุ่นนี้มาพร้อมกับ ตัวเลือก grind ถึง 6 แบบ ได้แก่ F, S, M, K, L และ D ซึ่งช่วยให้นักกอล์ฟสามารถเลือกเวดจ์ที่เข้ากับ สไตล์การเล่นและสภาพสนาม ได้อย่างเหมาะสม
- F Grind เหมาะสำหรับการตีเต็มวง (full shot) มีความมั่นคงสูง เหมาะกับการตีจากแฟร์เวย์หรือรัฟ
- S Grind ออกแบบมาสำหรับสวิงที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ ให้ความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเล่นจากแฟร์เวย์หรือบังเกอร์
- M Grind เหมาะกับนักกอล์ฟที่ชอบเล่นอย่างสร้างสรรค์ สามารถเปิดหรือปิดหน้าเวดจ์ได้ตามจังหวะที่ต้องการ
- K Grind มีค่า bounce สูงที่สุด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเล่นจากบังเกอร์หรือในสภาพสนามที่นุ่ม
- L Grind มีค่า bounce ต่ำ เหมาะสำหรับพื้นสนามแข็งหรือลื่น
- D Grind เป็นโซลูชันใหม่ล่าสุด ผสมผสานระหว่างค่า bounce สูงกับความอเนกประสงค์ของ grind ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม
ด้วยการผสมผสานระหว่าง องศาหน้าไม้ (loft), ค่า bounce, และ ประเภท grind Titleist มอบความเป็นไปได้ในการปรับแต่งมากกว่า 23 แบบ สำหรับเวดจ์รุ่น SM7
สำหรับนักกอล์ฟมืออาชีพ ความสามารถในการ ปรับแต่งเวดจ์ให้เข้ากับสไตล์การเล่นและสภาพสนามได้อย่างละเอียด ถือเป็นคุณค่าอันประเมินไม่ได้ — และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ Vokey SM7 ยืนหนึ่งในวงการเวดจ์ระดับโลกอย่างแท้จริง
ดีไซน์หรูหราและการตกแต่งผิวระดับเอ็กซ์คลูซีฟ
นอกจากเทคโนโลยีและประสิทธิภาพแล้ว การออกแบบภายนอกของ SM7 ก็โดดเด่นและดึงดูดสายตาไม่แพ้กัน Titleist มีตัวเลือกการเคลือบผิว (finishing) ให้เลือกถึง 3 แบบ ได้แก่ Tour Chrome, Brushed Steel และ Jet Black ซึ่งแต่ละแบบให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ลุคหรูหรา เรียบง่าย ไปจนถึงสปอร์ตทันสมัย
- Tour Chrome ให้ความรู้สึกแบบมืออาชีพ สะอาด และดูเป็นระเบียบ
- Brushed Steel ให้ภาพลักษณ์แบบคลาสสิกและพรีเมียม
- Jet Blackเป็นรุ่นที่ดู สปอร์ตและมีสไตล์มากที่สุด พร้อมลวดลายกราฟิกและโลโก้แบบโมเดิร์น เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการโดดเด่นบนสนาม
โลโก้และกราฟิกของ Titleist บนหัวเวดจ์ถูกเพิ่มด้วย ลวดลายสลักเลเซอร์ความละเอียดสูง ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหราและพิเศษเฉพาะตัว แม้แต่ผู้ใช้งานเองก็สามารถ ปรับแต่งเพิ่มเติม (customize) ได้ผ่านบริการบนเว็บไซต์ vokey.com เช่น การสลักชื่อ, การเลือกสีของกริป, หรือการประทับลวดลายส่วนตัว (personalized stamping)
ผลงานจริงที่ได้รับการยืนยันจากโปรในสนามแข่งขันระดับโลก
หนึ่งในหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดถึงคุณภาพของเวดจ์ SM7 คือการปรากฏตัวของมันใน PGA Tour นักกอล์ฟชื่อดังอย่าง Ian Poulter ได้ใช้เวดจ์รุ่นนี้ในการแข่งขันระดับทางการ เช่น Houston Open และสามารถคว้าชัยชนะได้ด้วยชุดเวดจ์ที่ประกอบด้วย 52°/12F, 56°/14F และ 60°/04L
ข้อเท็จจริงนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า SM7 ไม่ใช่เพียงแค่อุปกรณ์ช่วยเล่นทั่วไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเล่นระดับสูงอย่างแท้จริง เมื่อบรรดานักกอล์ฟอาชีพชั้นนำของโลกเลือกใช้เวดจ์รุ่นนี้ในการแข่งขันใหญ่ ๆ จึงพิสูจน์ได้อย่างแน่นอนว่า คุณภาพและความสม่ำเสมอของ SM7 นั้นไร้ข้อกังขา
ราคาและการวางจำหน่าย
เวดจ์ Titleist Vokey SM7 มีวางจำหน่ายในท้องตลาดในราคาประมาณ 149 ดอลลาร์สหรัฐ ราคานี้ถือว่าสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับ เทคโนโลยี ความแม่นยำ และความทนทาน ที่เวดจ์รุ่นนี้มอบให้ แม้จะไม่ใช่ตัวเลือกที่ราคาถูก แต่ SM7 ถือเป็น การลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า สำหรับนักกอล์ฟที่จริงจังกับการพัฒนาเกมลูกสั้นของตนเอง
ในด้านการจัดจำหน่าย SM7 มีวางขายอย่างแพร่หลาย ทั้งใน ร้านอุปกรณ์กอล์ฟอย่างเป็นทางการ, ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์, รวมถึงสามารถสั่งซื้อได้โดยตรงผ่านเว็บไซต์ vokey.com ซึ่งยังมี ตัวเลือกการปรับแต่งเพิ่มเติม (customization options) ให้เลือกตามความต้องการของผู้เล่นอีกด้วย
[ Follow our social media Account: GoGolf Instagram | GoGolf Facebook | GoGolf X ]
